มีปัญหาในการใช้งานเวบบอร์ด ติดต่อทีมงาน อีเมล fourfanclub@hotmail.com

'โฟร์' เฝ้าระวังทั้งน้ำทั้งหัวใจ (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

พูดคุยสนทนาตามประสาคนชอบโฟร์

'โฟร์' เฝ้าระวังทั้งน้ำทั้งหัวใจ (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

โพสต์โดย tanita2525 » อังคาร พ.ย. 15, 2011 6:39 pm

ช่วงสถานการณ์น้ำท่วมแบบนี้ ดาราหลายคนก็มีโอกาสลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย หนึ่งในนั้นก็มีชื่อของ โฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไร ศิลปินคู่ดูโอ “โฟร์มด” รวมอยู่ด้วย ซึ่งทำให้เธอเห็นแง่มุมชีวิตในหลายรูปแบบจากอุทกภัยครั้งนี้ รวมทั้งบ้านของเธอก็เป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วมด้วยเช่นกัน วันนี้ “ดาวต่างมุม” ได้มีโอกาสมาพูดคุยกับสาวโฟร์อย่างออกรสกับเรื่องราวของสถานการณ์น้ำ และเธอเองก็เผยเรื่องหัวใจมาให้เราทราบด้วย

สถานการณ์น้ำที่บ้านเป็นอย่างไรบ้าง?
อยู่ในช่วงบริเวณหน้าบ้านอยู่ค่ะ ประมาณเท่าหัวเข่า บ้านโฟร์อยู่แถวลาดกระบัง ก็มีการเตรียมตัวตั้งแต่ตอนที่ต่างจังหวัดน้ำท่วมอยู่ ก็ก่ออิฐสูงประมาณเท่าเอว ตรงหน้าบ้านถูกปิดหมดเลย รถก็เอาไปจอดที่สุวรรณภูมิหมดแล้ว ช่วงนี้ไปไหนก็ใช้แท็กซี่ตลอด บางทีก็ใช้รถญาติ หนูก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคนทำให้โลกมันร้อนหรือเปล่า ธรรมชาติแปรปรวน ไม่รู้ว่าจะโทษใครดี เห็นคนที่เขาเดือดร้อน เขาก็เดือดร้อนเยอะกว่าเรา ไม่มีที่จะไปจริง ๆ ก็ต้องอาศัยนอนตามพื้นถนน สะพาน ก็น่าสงสารกว่าเรา อันนี้ก็เลยไม่ใช่ที่สุดในชีวิตที่เราเจอ หนูก็ไม่ได้ลำบาก แม้มันจะมีน้ำท่วม มันก็แค่ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เต็มที่น่าจะไม่เกิน 2 เดือน

ตัวโฟร์ได้มีโอกาสลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ไหนบ้าง?
ก็มีไปค่ะ ที่ จ.ปทุมธานี น้ำเท่าเอวเท่าอก เขาต้องใช้อาศัยพื้นที่บนทางด่วน บนสะพานนอนกัน พื้นที่ตรงไหนที่มันไม่เปียก คนก็จะไปอยู่ตรงนั้นกันหมดเลย ตรงที่พื้นก็แดดร้อนมาก ก็ได้พูดคุยกับเขาว่า เวลาเข้าห้องน้ำทำยังไงกัน เขาก็เลยบอกว่านี่แหละคือสิ่งที่เขาขาดกันมาก ๆ มีคนเข้ามาช่วยก็จริง ก็จะได้แต่อาหารที่อยู่ได้ไปวัน ๆ แต่ห้องน้ำไม่มี ที่ไปตามศูนย์อพยพก็ได้เห็นว่า ไม่ว่าจะบ้านหลังละ 10 ล้าน หรือหลังแค่ไม่กี่แสน เขาก็อยู่รวมกันได้ ในสภาวะที่มันคับขันจริง ๆ คนรวยคนจนมันก็ไม่ได้แบ่งฐานะกันแล้ว แต่เราเป็นคนไทยเหมือนกัน เราก็อยู่ด้วยกันได้ เราก็จะรู้สึกว่า เออ ถึงจุดที่แบบว่า เราต้องรักกัน มันก็รักกันจริง ๆ

ดาราศิลปินมีบทบาทมากน้อยแค่ไหนในการช่วยเหลือครั้งนี้?
เยอะนะคะ เพราะปกติแล้ววัยรุ่นส่วนใหญ่จะทำทุกอย่างตามดารา ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผม การแต่งตัว แม้กระทั่งการกระทำ ซึ่งถ้าเราทำความดี เราไปช่วยเหลือโน่นนี่ วัยรุ่นที่เขาเห็น เขาก็จะแบบว่า อยากไปบ้าง อยากช่วย เราก็เป็นเหมือนตัวกลาง เป็นสื่อกลางที่มาบอกว่า มีทางไหนบ้างที่จะช่วยได้

แล้วรู้สึกยังไงที่มีคนวิจารณ์ดาราที่ไปช่วยน้ำท่วมว่าสร้างภาพ?
มันก็ต้องสร้างภาพ คือสร้างให้เขาเห็นไงว่า เราลงไปช่วยนะ ทุกฝ่ายทุกหน่วยจะได้มาช่วยกัน ประชาชนจะได้เห็นว่าเราไปช่วยนะ ถามว่าเราจะลงไปลุย ลงไปว่ายน้ำอะไรหรือเปล่า มันก็ไม่ถึงขนาดนั้น เราก็ต้องห่วงชีวิตตัวเองเหมือนกัน แต่ว่าเหมือนเราเป็นตัวอย่างที่ดีมากกว่า เราเป็นสื่อกลาง เป็นตัวเชื่อมทุกอย่าง ให้ทุกคนเห็นแล้วอยากจะทำเหมือนเรา

งานการกระทบยังไงบ้าง?
ก็มากค่ะ ตั้งแต่กลางเดือน ต.ค. แล้วค่ะ เริ่มจากต่างจังหวัดก่อน คอนเสิร์ตส่วนใหญ่เราก็อยู่ต่างจังหวัดหมด ก็ยกเลิกไป คนอื่นเขาโดนหนักแล้วเราจะมาร้องเพลงมีความสุขอยู่ได้ยังไง คนที่เขามีห่วงเขาคงไม่อยากจะฟังไม่อยากจะสนุกแล้ว ก็ไม่เป็นไร แต่ว่ามันเป๊ะกับตอนที่เราเพิ่งปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ขึ้นมา มันเป็นช่วงโปรโมต แล้วก็ทำอัลบั้มใหม่ด้วย เป็นช่วงที่เราต้องเดินสาย ออกไปพบสื่อ พบแฟนคลับที่ต่างจังหวัด ทุกอย่างก็โดนยกเลิกหมดเลย มันก็ยากที่จะให้เพลงเราเข้าถึงทุกคน ตอนแรกก็ท้อ เราไปไหนมาไหนทุกคนดูข่าวน้ำท่วมหมด จะมีใครเปิดดูเอ็มวีเราไหม เหมือนรายการบันเทิงบางรายการก็งด เพราะออกไปถ่ายทำไม่ได้ งานของเราก็เงียบ ๆ ลงไปด้วย ก็คุยกับแฟนคลับผ่านทวิตเตอร์ว่าเป็นยังไง ส่วนใหญ่ก็บอกว่าชอบ เราก็ไปดูยอดวิวในเว็บต่าง ๆ ว่าเป็นยังไงบ้าง ล่าสุดเราก็ไปดูยูทูบมาก็ล้านกว่าวิวแล้ว ภายใน 2 อาทิตย์ ตอนแรกเราใจไม่ดีเลย แต่ว่าคนสมัยนี้เขาใช้เทคโนโลยีมากกว่าที่จะดูทีวีแล้ว เขาก็ดูข่าวสารตามอินเทอร์เน็ต เราก็เลยไปเช็กในเน็ต เราก็รู้สึกว่า เออ มันก็ได้อยู่นะ แต่แบบจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นซะส่วนใหญ่ที่จะรู้ว่ามีเพลงใหม่ ถ้าเกิดกลุ่มที่ใหญ่กว่านั้นคนธรรมดาทั่วไป เขาก็จะสนใจเรื่องน้ำท่วมอย่างเดียว พอรู้ว่ามีคนสนใจเพลงเราบ้าง ก็รู้สึกดีขึ้น ก็ยังคุยกับมดอยู่ว่า เห็นยังล้านวิวแล้ว เราก็ตกใจ นี่ขนาดน้ำท่วมนะเนี่ย ถ้าไม่ท่วมมันจะขนาดไหน ถ้าน้ำไม่ท่วมชาวบ้านทั่วไปก็จะได้เห็นเรา แล้วก็คุยกับที่ค่ายว่าซิงเกิ้ล 2 อย่าเพิ่งปล่อยนะ ขออยู่นาน ๆ กับซิงเกิ้ลแรก

ช่วงนี้ว่างมากทำอะไรบ้าง?
ก็ลงพื้นที่ ไปตามศูนย์อพยพ อย่างไปที่ดอนเมืองตอนที่ยังไม่ท่วม ไปให้กำลังใจผู้อพยพ ไปช่วยแพ็กของ ไปให้กำลังใจพี่ ๆ ที่ทำงานกัน เสร็จแล้วก็มาที่ศูนย์อพยพที่รามฯ ก็ไปดูความเป็นอยู่ว่าเขาอยู่กันยังไงบ้าง ตอนนี้เขาอยากได้อะไรมากที่สุด ถ้าไม่ได้ไปไหนก็นอนทั้งวัน ดูทีวีบ้าง ติดตามข่าวสาร บางทีก็ชวนเพื่อนไปลงพื้นที่เอง โดยที่ไม่ได้ผ่าน อาร์เอส ไม่ได้ออกสื่อ เราก็รู้สึกว่าสบายใจที่จะทำ ผู้ประสบภัยเวลาที่เขาเห็นเรา เขาดีใจมาก ๆ ก็ขอบคุณมาก ๆ ที่มาช่วยนะ ขอให้สวยขอให้ดัง เราก็จะบอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ เราเต็มใจมานะ เราไม่ได้มาเพื่อเอากล้องมาถ่าย ก็จะบอกเขาว่าเราช่วยเต็มที่อยู่แล้ว แต่พี่ ๆ ต้องอดทนนะ เราก็ได้แต่พูดคุยกับเขา ให้เขาได้รู้สึกว่าทุกคนไม่ได้ทอดทิ้งเขานะ

แล้วตอนนี้หัวใจเป็นอย่างไรบ้าง แข็งแรงหรือยัง?
หนูจะบอกตรง ๆ ว่าหนูไม่ได้เป็นอะไรเลยนะ ปกติทุกอย่างเลย ชีวิตช่วงนี้แฮปปี้มาก ก็ทำซิงเกิ้ลใหม่ ช่วงน้ำท่วมก็ออกไปช่วยคนโน้นคนนี้ ก็มีความสุขค่ะ แต่ว่าช่วงที่มีเขาเราก็มีเพื่อนไปไหนมาไหน ดูหนังกินข้าว ตอนที่เราไม่มีเราก็ได้มีเวลาอยู่คนเดียว นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย คิดถึงหน้าที่การงานว่าเราจะทำตรงไหนถึงตรงไหน เมื่อไหร่ วางแผนชีวิตอะไรมากขึ้น

ตอนเลิกกันมีช่วงเฮิร์ตบ้างไหม?
ในช่วงนั้นมันผ่านมานานมาก แต่ในช่วงที่เราออกมาบอกกับทุกคนเนี่ย มันเป็นช่วงที่เราปกติสุด ๆ แล้ว เราถึงออกมาบอกได้ ในช่วงที่เฮิร์ตที่เสียใจมันมี แต่ว่ามันผ่านมาแล้ว เราก็รู้สึกแบบเหมือนวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่เคยมีความรัก อกหักนะ เสียใจนะ ที่หนูออกมาพบสื่อเจอสื่อได้นี่เป็นช่วงที่ปกติมาก ๆ ทุกคนก็จะมองว่า ตายแล้วโฟร์ ทำไมเธอเข้มแข็งจัง

มีคนใหม่ ๆ มาจีบบ้างไหม?
คนใหม่ ๆ ก็มีมาเรื่อย ๆ ค่ะ แต่จะเป็นรูปแบบเพื่อนของเพื่อน ไปกินข้าวแล้วเจอกัน ก็คุยกัน แต่จะแบบมาจีบจริงจังก็ไม่มี แต่ไม่เหงาเลย เพราะมีเพื่อนแล้วก็อยู่กับเพื่อนตลอดเลย อย่างที่หนูคบใคร หรือว่าคุยกับใครก็ให้อารมณ์เป็นเพื่อนกันมากกว่า ก็คือคนนั้นแหละที่ไปกินข้าว ชอปปิง ดูหนัง ก็เป็นเหมือนเพื่อนกัน แต่พอไม่มีปุ๊บ เราก็ยังใช้ชีวิตแบบนั้นอยู่เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนมาใช้กับเพื่อนเท่านั้นเอง เป็นเพื่อนคนอื่นไป

มุมมองความรักเปลี่ยนไปไหม?
ไม่เปลี่ยน หนูไม่ได้อกหัก ไม่ได้โดนทำร้าย ไม่ได้เข็ด หรือว่าอะไรเลย วันหนึ่งมันถึงจุดที่ไม่ใช่ มันก็ต้องต่างคนต่างอยู่จะไปฝืนก็ไม่ใช่เรื่อง เราเจอกันตั้งแต่เด็กตอนอายุ 20 พอมาถึงวันนี้เราอายุ 24-25 กันแล้ว เราก็มองอนาคตไปอีกแบบ คุยกันแล้ว มันก็ไม่ใช่ แรก ๆ อาจจะฝืนเพื่อปรับตัวให้มันเหมือนกัน แต่พอวันหนึ่งคนเรามันฝืนไปเยอะ ๆ มันก็ไม่ใช่ สเปกก็เหมือนเดิม ยังไงก็ชอบคนหน้าตาดี ชอบคนแต่งตัวเนี้ยบ แต่งตัวเป็น ชอบคนสะอาด

แต่จะเปลี่ยนมามองคนที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นไหม ไม่มองคนรุ่นเดียวกัน?
ไม่ค่ะ หนูไม่ได้ฟิกซ์อะไรขนาดนั้น ยังไม่ได้รู้สึกว่าต้องหาใครสักคนเพื่อแต่งงาน หนูยังไม่ได้มองถึงขนาดนั้น ได้แต่รู้สึกว่าคุยกับคนนี้สบายใจก็คุย ไม่จำเป็นต้องแบบ เธอมาเป็นแฟนฉันนะ หนูยังไม่ได้รีบที่จะต้องมีครอบครัวหรืออยากแต่งงาน รู้สึกว่าสัก 28 ก็ได้ ค่อยแบบมองหาใครสักคนที่เราอยากจะอยู่ด้วย หรือหาใครสักคนที่เข้ากันได้ พูดตรง ๆ นะตอนนี้เอาเป็นแค่เพื่อนกันก่อน ใครจะมาจีบก็แล้วแต่ เข้ามาแบบเราอยากเป็นแฟนนะ ไม่มีเลย ก็แค่กินข้าวกัน ดูหนังกัน ปกติจะไม่กล้ามีเพื่อนผู้ชายเท่าไหร่ เพราะกลัวไปไหนมาไหนแล้วจะเข้าใจผิดกัน กลัวจะเป็นข่าว พอตอนนี้ปุ๊บเราก็ปกติเลย มีเพื่อนผู้ชายได้ ไปไหนกับเพื่อนผู้หญิงก็ได้ เพื่อนผู้ชายก็ได้ เพราะคิดว่าเป็นเพื่อนเหมือนกัน เมื่อก่อนหนูจะระวังตัวว่าเดินกับผู้ชาย คนอื่นจะเข้าใจผิดหรือเปล่า เป็นอารมณ์เกรงใจ

ท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงแฟนคลับ?
ขอบคุณทุกคนมากจริง ๆ ที่คอยติดตามผลงานโฟร์มดตั้งแต่แรก ๆ เลย โฟร์มีเว็บไซต์ชื่อว่า http://www.fourfan.com อันนี้ก็อยู่กับโฟร์มาประมาณ 6-7 ปีแล้ว และทวิตเตอร์ @khunfour ไม่ว่าจะมีข่าวดีข่าวไม่ดีก็ให้กำลังใจตลอด หนูเป็นคนที่ค่อนข้างแปรปรวนตลอดเวลา แต่เขาก็ยังเข้าใจ บางทีแม่บอกว่าโฟร์ทำอย่างนี้ไม่ได้นะ แต่แฟนคลับบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องถ่ายรูปก็ได้ เราก็เลยมาคิดว่า ตายแล้วถ้าเราเป็นเด็ก แล้วเราชอบใครสักคน แล้วขอถ่ายรูป เขาบอกว่าไม่ถ่ายได้ไหม เหนื่อย หัวใจคงสลาย แต่น้องเขาเข้าใจ ก็ดีที่เขาชอบที่เราเป็นเราจริง ๆ ไม่ได้ชอบที่ความสดใสน่ารักในทีวี เพราะจริง ๆ แล้วหนูกับในทีวีไม่เหมือนกัน ในทีวีจะเห็นเป็นเด็กสดใสน่ารัก ยิ้มเก่งคุยเก่ง แต่หนูโตแล้ว จะมีอารมณ์ที่แบบว่าอยากอยู่คนเดียว ไม่อยากพูดกับใคร บางทีก็อยากจะฟังเพลง ไม่อยากจะถ่ายรูป ไม่อยากจะโดนคนมาสัมภาษณ์เยอะ ๆ บางทีนั่งอยู่กับมดก็ไม่คุยกับมดเลย มันจะมีอารมณ์ที่แบบว่าติสท์เยอะเหมือนกัน แต่เราก็พยายามจะรักษาลุคในทีวีไว้ แต่แค่บางทีเราเหนื่อยแล้วก็อยากอยู่คนเดียว คือเป็นแค่ช่วงเวลาที่เหนื่อย

แหม...คนเรามันก็ต้องมีหลายอารมณ์เป็นธรรมดา แต่เอาเป็นว่าหน้าจอกับหลังจอ “จริงใจ” ก็พอแล้ว.

เดลินิวส์.jpg
เดลินิวส์.jpg (68.62 KiB) เปิดดู 8206 ครั้ง
tanita2525
 
โพสต์: 857
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 08, 2008 9:11 pm
ที่อยู่: ประชาชื่น

Re: 'โฟร์' เฝ้าระวังทั้งน้ำทั้งหัวใจ (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

โพสต์โดย 4หนุงหนิง4 » พฤหัสฯ. พ.ย. 17, 2011 12:37 am

ชอบหัวข้่อข่าวจัง :D
http://www.facebook.com/nungning.ffc
http://twitter.com/4nungning4
http://fourlygirl.hi5.com

รูปภาพ

รูปภาพ
4หนุงหนิง4
แม่ยก
แม่ยก
 
โพสต์: 3120
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ เม.ย. 14, 2008 4:56 pm
ที่อยู่: F-F-C

Re: 'โฟร์' เฝ้าระวังทั้งน้ำทั้งหัวใจ (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

โพสต์โดย fourvilla » พฤหัสฯ. พ.ย. 17, 2011 11:13 am

ข้อสุดท้าย เขียนถึงแฟนคลับได้น่ารักมาก :)
fourvilla
 
โพสต์: 95
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 01, 2011 2:58 am

Re: 'โฟร์' เฝ้าระวังทั้งน้ำทั้งหัวใจ (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

โพสต์โดย mook_susu » ศุกร์ พ.ย. 18, 2011 4:14 pm

โอ่ย ขอบคุณนะคะ รักเจ๊เลยยยยอ่ะ คิคิ
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
mook_susu
 
โพสต์: 3051
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มี.ค. 06, 2007 11:28 am

Re: 'โฟร์' เฝ้าระวังทั้งน้ำทั้งหัวใจ (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

โพสต์โดย worapart » เสาร์ พ.ย. 19, 2011 4:28 pm

Thx for news krub :b2:
love four : ) 4ever
Mic

Follow me !
http://www.twitter.com/mickeyworapart

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
worapart
เด็กเวบ
เด็กเวบ
 
โพสต์: 209
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ เม.ย. 17, 2011 9:48 pm

Re: 'โฟร์' เฝ้าระวังทั้งน้ำทั้งหัวใจ (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

โพสต์โดย fourtyfong4444 » เสาร์ พ.ย. 19, 2011 8:18 pm

ขอบคุณค้าบบ
รูปภาพ
ไม่มีเหตุผลที่มากมาย แค่ใจชั้นรักเธอ " ศกลรัตน์ "
http://twitter.com/fourtyfong4444
fourtyfong4444
 
โพสต์: 930
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 17, 2009 9:49 pm


ย้อนกลับไปยัง โฟร์แฟน

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 16 ท่าน

cron