เขียนลงบนทราย

เป็นเรื่องราวของ เพื่อน 2 คนที่กำลังเดินทางอยู่กลางทะเลทราย
เมื่อเดินทางถึงจุดหนึ่ง ก็ เกิดการโต้เถียงกัน
เพื่อนคนหนึ่งก็ตบหน้าเพื่อนอีกคนหนึ่ง
เพื่อนคนที่ถูก ตบหน้า ไม่ว่าอะไรสักคำ แต่กลับเขียนข้อความไว้ที่พื้นทรายว่า
"วันนี้ เพื่อนรักของฉัน ตบหน้าฉัน"
พวกเขาเดินทางกันต่อไป จนกระทั่งพบแหล่งน้ำ กลางทะเลทราย
พวกเขาตัดสินใจอาบน้ำที่นั่น เพื่อนคนที่ถูกตบหน้าก็เกิดจม น้ำ
แต่ก็โชคดีที่เพื่อนอีกคนช่วยชีวิตไว้ได้
เมื่อเขาหายตกใจจากการจม น้ำ เขาก็จารึกข้อความไว้ที่ก้อนหินว่า
"วันนี้เพื่อนรักของฉัน ช่วยชีวิต ฉันไว้"
เพื่อนคนที่ช่วยชีวิตเขาและตบหน้าเขารู้สึกแปลกใจในการกระทำของ เขา
จึงเอ่ยปากถามว่า
"ทำไมตอนที่ฉันทำร้ายเธอ เธอเขียนลงบนพื้นทราย แต่ตอนนี้เธอเขียนลงบนหิน"
เพื่อนอีกคนยิ้มและตอบว่า
"เมื่อเพื่อนทำ ร้ายเรา เราควรจะเขียนลงบนทราย เพื่อให้สายลมแห่งอโหสิพัดมาและลบมันทิ้งไป
และเมื่อมีความประทับใจเกิดขึ้น เราควรจะจารึกไว้ในศิลาแห่งความทรงจำจากใจ
ซึ่งสายลมจะมิอาจทำให้มันเลือนลางได้"
จงเรียนรู้ที่จะเขียนลงบนพื้น ทราย (ซึ้งอ่า เพื่อนกันต้องรัก)
เมื่อเดินทางถึงจุดหนึ่ง ก็ เกิดการโต้เถียงกัน


เพื่อนคนที่ถูก ตบหน้า ไม่ว่าอะไรสักคำ แต่กลับเขียนข้อความไว้ที่พื้นทรายว่า
"วันนี้ เพื่อนรักของฉัน ตบหน้าฉัน"


พวกเขาเดินทางกันต่อไป จนกระทั่งพบแหล่งน้ำ กลางทะเลทราย
พวกเขาตัดสินใจอาบน้ำที่นั่น เพื่อนคนที่ถูกตบหน้าก็เกิดจม น้ำ
แต่ก็โชคดีที่เพื่อนอีกคนช่วยชีวิตไว้ได้
เมื่อเขาหายตกใจจากการจม น้ำ เขาก็จารึกข้อความไว้ที่ก้อนหินว่า
"วันนี้เพื่อนรักของฉัน ช่วยชีวิต ฉันไว้"
เพื่อนคนที่ช่วยชีวิตเขาและตบหน้าเขารู้สึกแปลกใจในการกระทำของ เขา
จึงเอ่ยปากถามว่า
"ทำไมตอนที่ฉันทำร้ายเธอ เธอเขียนลงบนพื้นทราย แต่ตอนนี้เธอเขียนลงบนหิน"


"เมื่อเพื่อนทำ ร้ายเรา เราควรจะเขียนลงบนทราย เพื่อให้สายลมแห่งอโหสิพัดมาและลบมันทิ้งไป
และเมื่อมีความประทับใจเกิดขึ้น เราควรจะจารึกไว้ในศิลาแห่งความทรงจำจากใจ
ซึ่งสายลมจะมิอาจทำให้มันเลือนลางได้"

จงเรียนรู้ที่จะเขียนลงบนพื้น ทราย (ซึ้งอ่า เพื่อนกันต้องรัก)