
ศกลรัตน์ วรอุไร - ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ ใครจะไปคาดคิดว่า ถึงทุกวันนี้ โฟร์ และมด สองสาววัยใสแห่งวง Four-Mod จากค่าย Kamikaze ในสังกัดอาร์เอส จะออกอัลบั้มมาแล้วถึง 7 ชุด และอยู่ในวงการบันเทิงไทยมานานกว่า 6 ปีเต็ม
โฟร์เริ่มต้นเข้าวงการมาในฐานะของนักแสดง ส่วนมดถูกส่งตรงมาเพื่อจับคู่เป็นนักร้องกับโฟร์โดยเฉพาะ ทั้งสองสาวทำอัลบั้มร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2548 ทั้ง Four-Mod, Love Love, Wooo!, Four-Mod in Wonderland, Go! Go!, We Will Love You และล่าสุดเมื่อปีที่แล้วกับ Hello Four-Mod ที่มีเพลงสนุกๆ อย่าง 'Love Villa' และเพลงเศร้าซึมลึกอย่าง 'เจ็บเพราะเขาเหงาเพราะเธอ' เป็นตัวชูโรง
วันนี้เราเตรียม 5 คำถามมาคุยกับพวกเธอระหว่างที่กำลังเกลือกกลิ้งเล่นอยู่บนเตียงนอนนุ่มๆ กันครับ มาดูสิว่า พวกเธอจะออกลีลา 'เมาท์' ว่าอย่างไรกันบ้าง!

1 GM : คิดยังไงกับการมีอัลบั้มมาแล้วถึง 7 ชุดภายในระยะเวลาเพียงแค่ 6 ปี เท่านั้น
โฟร์ : ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกันนะคะ เพราะเราก็แค่ออกอัลบั้มมาเรื่อยๆ ไม่เคยนับเลยว่าออกมากี่ชุดแล้ว แต่พอมาไล่นับดู เฮ้ย! มันผ่านมาตั้ง 7 อัลบั้มแล้วนี่นา คือเราไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะมากันไกลขนาดนี้ (หัวเราะ) เราว่าเป็นเพราะบางปีเราก็ออก 2 อัลบั้ม ยิ่งอัลบั้มล่าสุดเราค่อยๆ ปล่อยทีละซิงเกิลมาตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว มันเลยดูเหมือนว่าออกเยอะไงคะ เอาจริงๆ ตอนแรกเราไม่ได้อยากเป็นนักร้อง เราเข้ามาทำงานตรงนี้เพราะอยากเป็นนักแสดง แต่พอมีโอกาสจากผู้ใหญ่ เราก็เลยลองทำดู ปรากฏว่าทั้ง 'หายใจเป็นเธอ' จากอัลบั้มแรก และ 'Love Love' จากอัลบั้มสอง ได้รับเสียงตอบรับดีจากคนฟัง เราเลยรู้สึกว่า ดีจังเลย ถ้ามันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็คงดี ถึงแม้ว่าในใจเราจะคิดว่าเต็มที่ไม่น่าจะได้ออกเกินสามชุดก็เถอะ (หัวเราะ)
มด : รู้สึกดีค่ะ เพราะตอนเด็กๆ ก่อนที่จะเข้าวงการ เราเคยฝันเอาไว้ว่าเราอยากเป็นนักร้อง เคยไปเรียนร้องเพลง เรียนเต้น ตอนแรกๆ พอรู้ว่าจะได้ทำอัลบั้ม เราก็ตื่นเต้นมากยิ่งพอทำแล้วเสียงตอบรับดีมาก เราก็เลยยิ่งมีกำลังใจ
โฟร์ : ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเพลงของพวกเราเป็นเพลงที่ฟังง่าย ติดหู แล้วก็มีท่าที่สามารถเต้นตามได้ด้วยแหละ
2 GM : อายุห่างกันตั้ง 5 ปี แต่สามารถอยู่ด้วยกันมาขนาดนี้ มีวิธีปรับตัวเข้าหากันยังไงบ้าง
โฟร์ : แรกๆ ก็ค่อนข้างยากค่ะ เพราะอายุเราจะต่างกันเยอะ คือตอยอัลบั้มแรกโฟร์อายุ 17 ส่วนมดอายุ 13 เอง เขาก็เลยยังมีความเป็นเด็กอยู่ แต่เขาก็ต้องมาทำงาน มารับผิดชอบอะไรตรงนี้เยอะแยะ จนบางทีเขาก็จะทำตัวแบบที่เราไม่ค่อยเข้าใจ คุยกันไม่ค่อยลงรอยบ่อยๆ จนบางครั้งเราก็รู้สึกว่าไม่ไหวแล้วมั้ง อายุมันห่างกันเกินไป แต่พออยู่ๆ กันไปสักพัก เราก็มานั่งคิดว่า เฮ้ย! ถ้าปล่อยให้มันเป็นแบบนี้มันคงทำงานด้วยกันไม่ได้นะ เริ่มย้อนคิดไปว่าตอนเราอายุ 13 เราเป็นแบบนี้หรือเปล่านะ แล้วเราควรต้องปรับเข้าหาเขายังไง พออัลบั้มหลังๆ จากที่ไม่เคยเอาเรื่องพวกนี้มาคุยกัน เราก็เริ่มหันมาจับเข่าคุยกันมากขึ้น ว่าใครชอบอะไร ไม่ชอบอะไร อะไรควรทำ ไม่ควรทำ ซึ่งมดเขาก็เอาจุดที่เราบอกไปพัฒนาตัวเอง ในขณะที่เราซึ่งเป็นคนพูดตรง พูดแรง ก็ต้องปรับให้เบาลงมาบ้าง มดเขาจะได้รู้สึกโอเคขึ้น จะได้รู้สึกว่าเราเหมือนเป็นเพื่อนกับเขามากขึ้น หลังจากนั้นเราก็เริ่มเข้าใจกันมากขึ้น
มด : ยอมรับว่าตอนนั้นเรายังเด็กมาก เวลาทำงานมันก็เลยต้องมีง้องแง้งงอแงบ้าง มีอารมณ์ไม่อยากทำงานอะไรอย่างนี้ แต่พอถึงจุดที่เราได้ทำงานนานๆ เข้า ตัวเราก็จะรับรู้ได้จากคนรอบข้างที่เราทำงานด้วย เพราะเขาจะบอกเราเสมอว่ามดงอแงไม่ได้แล้วนะ ต้องโตแล้วนะ ทำงานตรงนี้เราต้องอดทน ต้องคิดถึงคนอื่นด้วย ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่าทำไม เพราะอะไร แต่ด้วยประสบการณ์ ด้วยการทำงาน มันก็เริ่มทำให้เราเติบโตขึ้นเองโดยที่เราไม่รู้ตัว
3 GM : มีเรื่องประทับใจต่อกันบ้างไหม
โฟร์ : จริงๆ แล้วบทซึ้งของเราสองคนจะน้อยมาก (หัวเราะ) แต่สิ่งที่โฟร์ประทับใจในตัวมดคือเวลาไปทำงานด้วยกันตามต่างจังหวัด เราจะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีระเบียบ ถึงโรงแรมก็จะโยนของต่างๆ กองเอาไว้ เวลามดเห็นเขาก็จะรำคาญ แล้วก็ต้องมานั่งเก็บนั่งจัดของที่เราโยนๆ เอาไว้ให้มันเป็นระเบียบ (หัวเราะ) เพราะเขาจะเป็นคนที่มีระเบียบกว่าเรามากๆ เราก็เลยแบบเออ...ดี วันหลังให้มดเก็บให้ละกัน เราจะได้ไม่ต้องทำเอง (หัวเราะ) ซึ่งทุกวันนี้ หน้าที่นั้นก็จะกลายเป็นของผู้จัดการวงไปแล้ว
มด : คือมดจะเป็นคนที่เห็นอะไรรกๆ ไม่ได้ เห็นแล้วมันขัดใจ ด้วยความที่คุณแม่จะคอยจู้จี้เรื่องนี้มาโดยตลอด เราเลยได้รับนิสัยตรงนี้จากแม่มาโดยปริยาย ส่วนสิ่งที่เราประทับใจในตัวโฟร์ก็คือเขาจะเป็นคนที่ไม่ค่อยเครียด ถึงมีเรื่องอะไรอยู่ในใจแต่ว่าเวลาอยู่กับเรา เขาจะเป็นคนเฮฮาเสมอ อยู่ด้วยแล้วแฮปปี้ เพราะเราจะมีเรื่องตลกๆ หรือเรื่องเมาท์คนอื่นมาคุยกันตลอด (หัวเราะ) บางทีก็มีปรึกษาปัญหาเรื่องความรัก การทำงาน หรือแฟชั่น ยิ่งเรื่องหลังนี่ โฟร์เขาจะถนัดมาก (เน้นเสียง) เรื่องช้อปปิ้ง เรื่องเซนต์การแต่งตัวนี่ยกให้โฟร์เลย
โฟร์ : ส่วนเราก็จะปรึกษามดเรื่องมือถือ เรื่องคอมพิวเตอร์ตลอด เพราะเขาจะเป็นเจ้าแม่เทคโนโลยี เขาจะรู้หมด ว่าอุปกรณ์ชิ้นไหนเป็นยังไง โปรแกรมอะไรโหลดตรงไหน แล้วเขาจะซื้อมือถือใหม่บ่อยมาก เพราะเขาจะไม่ค่อยชอบเห็นมือถือเป็นรอย (หัวเราะ) เป็นรอยทีไรต้องซื้อใหม่ทุกที

4 GM : แล้วเคยมีเรื่องเซอร์ไพรส์ให้กันหรือเปล่า
ทั้งคู่ : โอ้ย! ไม่ต้องมีหรอก (หัวเราะ)
โฟร์ : คือมันอยู่ด้วยกันทุกวันน่ะ เจอกันบ่อยกว่าคนที่บ้านอีก อย่างเดือนหนึ่งมี 30 วัน เราจะเจอกันประมาณ 25 วัน แล้วคิดดูว่าเจอกันแบบนี้มาตั้ง 6 ปี อย่างดีที่สุดก็คือมดให้ลูกอม แล้วเราก็คิดว่า อุ้ย! มดให้ลูกอมแค่นั้นเอง (หัวเราะ)
มด : คืออย่างมากก็จะเป็นของเล็กๆ น้อยๆ ที่ตัวเองซื้อมาแล้วคิดว่าไม่เหมาะกับตัวเอง ซื้อมาแล้วไม่ใช้ เราก็จะให้อีกคนหนึ่งใช้แทนอะไรแบบนี้มากกว่า
5 GM : สุดท้าย อยากฝากอะไรถึงบรรดาแฟนคลับที่อยู่กับเรามานานถึง 6 ปีเต็ม
โฟร์ : ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่ติดตามผลงานและอยู่กับเรามานานขนาดนี้ เวลาไปทำงานตรงไหน ก็จะเป็นแก๊งเดิมๆ ที่คอยมารับมาส่ง แล้วถึงเราจะออกผลงานมาเยอะ แต่เขาก็ไม่เคยเบื่อ หรือเวลาที่เราทำอะไรผิดพลาด เขาก็จะให้โอกาสเราเสมอ ต้องขอขอบคุณทุกคนจริงๆ
มด : โฟร์ขอบคุณไปแล้ว งั้นมดขอฝากผลงานแล้วกัน เพราะปีนี้กามิกาเซ่มีโปรเจ็กต์เยอะมาก แล้วก็จะมีคอนเสิร์ตรวมทั้งค่ายอีกในเร็วๆ นี้ เราก็อยากให้ทุกคนได้ลองติดตามกันดูค่ะ รับรองว่าเป็นคอนเสิร์ตที่สนุกเหมือนเดิม (ยิ้มสวย)

ข้อดี-ข้อเสียของโฟร์
"เราจะเป็นคนพูดตรง ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นข้อดีนะ เพราะเราไม่ชอบโกหกใคร ถ้าชอบ ไม่ชอบ เราจะพูดเลย ไม่แคร์ด้วยว่าใครจะเกลียด แต่ในขณะเดียวกัน การพูดตรงของเรามันก็ถือเป็นข้อเสียเหมือนกันนะ เพราะคนจะชอบคิดว่าเราแรง เราเหวี่ยง แต่ด้วยวิธีการพูดของเรามันทำให้คนเข้าใจไปอย่างนั้น เราเลยต้องพยายามลดๆ ลงมาบ้าง"
ข้อดี-ข้อเสียของมด
"ข้อดีของเราคือเป็นคนตลกๆ แม้จะไม่ค่อยตลกเท่าไหร่ก็เหอะ แต่ก็ทำดีที่สุดในชีวิตแล้วนะ (หัวเราะ-โฟร์แทรกขึ้นมาว่า มดไม่ได้เป็นคนตลกหรอก แต่มดเป็นคนเอ๋อ) ส่วนข้อเสียก็คือพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง จะเรียบเรียงความคิดหรือสื่อสารอะไรให้คนอื่นฟังได้ไม่ค่อยเก่ง แล้วก็จะเป็นคนขี้ลืมด้วย"
