"อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไหนล่ะคะ"
"เสื้อผ้าที่ไหนก็เปลี่ยนๆ ไปเถอะน่า " ว่าแล้วก็เดินหายเข้าบ้านไป
อเนชาไปหาวราลีที่บ้านแต่เช้า แต่เขาก็ไม่มีโอกาสได้เจอกับเธอเหมือนเคย เพราะวราลีคอยหลบหน้า จนแม่บัวท้วงว่า เธอจะหลบหน้าเขาไปได้อีกนานแค่ไหน วราลีไม่ตอบ แต่สายตาฉายแววเศร้าจนใจหาย
ลำไยพาฮันเทจุนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ไม่มีเสื้อผ้าให้ใส่ ฮันเทจุนจึงได้ใส่แต่ผ้าขาวม้ากับเสื้อผ้าป่านตัวบางๆ อินทิราเห็นแล้วโวยวายลั่น
"อะไรกันเนี่ย ลำไยทำไมทำแบบนี้ล่ะลำไย"
"อ้าว ก็...ก็คุณอินทิรา บอกว่าให้พาไปเปลี่ยนเสื้อผ้านี่คะ ลำไยก็เปลี่ยนให้แล้วนี่ไง"
"แล้วเปลี่ยนยังไง ถึงได้เป็นแบบนี้ ไปเอาผ้าขาวม้าใครมาเนี่ย"
"ของตาผลค่ะ"
"แล้วทำไมไปเอาของตาผลล่ะ ทำไมไม่เอาเสื้อผ้าของพี่ชาเล่า"
"อ้าว ก็คุณอินทิราไม่ได้บอกนี่คะ แล้วคุณชาก็ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วด้วย ลำไยไม่กล้าขอนี่คะ"
"หืยยยย... แล้วทำไมไม่เอาของแม่อุ่นมาให้ใส่ซะเลยล่ะ"
"จะเอามั้ยล่ะคะ ลำไยจะเปลี่ยนให้" อินทิราทำหน้าอยากตาย
"ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร" ฮันเทจุนตัดบท สองสาวต่างวัยหันมามอง
"สวยดี ผมชอบ" ลำไยทำท่าเยส ชนะเลิศ อินทิรามองหน้าฮินเทจุนโกรธๆ
เสียงแม่อุ่นโวยวายลั่นว่าอินทิราพาผู้ชายเข้าบ้านดังมา พอเห็นฮันเทจุน เสียงแม่อุ่นยิ่งดังใหญ่
"ทำไมทำแบบนี้คะคุณอิน นี่แน่ะๆ" อินทิราโดนตีไปหลายที
"โอ๊ย เดี๋ยวๆ อินไม่ได้ทำอะไรนะ"
"ไม่ได้ทำได้ไงคะ ก็ตาผลน่ะบอกว่าคุณอินเอาผู้ชายเข้าบ้าน แถมยังพามาแก้ผ้าแก้ผ่อนกันด้วย นี่แน่ะๆ" แม่อุ่นไล่หยิกอินทิราพัลวัน อ้อมหน้าอ้อมหลัง ฮันเทจุน
"ไม่ใช่นะ โอ๊ย !!อินเจ็บนะ ช่วยด้วยๆ นี่นายเกาหลีทำอะไรบ้างสิ ยืนทื่ออยู่ได้... โอ๊ยยยเจ็บบบ...นายเกาหลี" ฮันเทจุนทำอะไรไม่ถูก เลยตวาดเป็นภาษาเกาหลีออกมา
"หาจี๊หม่า!!!"
ทุกคนชะงักๆ กึก มองฮันเทจุนเป็นตาเดียว งงๆ ว่ามันพูดอะไร ปู่อนลได้ยินเสียงโวยวายก็ออกมาดูอีกคน พอเห็นฮันเทจุนก็พลอยชะงัก ทำหน้าแปลกใจ
"แล้วนี่มันใครกันล่ะ" ปู่อนลมองฮันเทจุนหัวจรดเท้า
"รับคนสวนใหม่รึไง"
"ไม่ใช่...ไม่ใช่คนสวนค่ะ คุณปู่"
"อ้าว! ไม่ใช่คนสวนแล้วใครกันล่ะ" อินทิราทำหน้าตุ่ย ยิ้มเจื่อนๆ
อินทิราตัดปัญหาด้วยการส่งให้ฮันเทจุนอยู่เป็นเพื่อนปู่อนลที่บ้าน ส่วนเธอรีบไปทำงาน และเล่าความเคลื่อนไหวให้วราลีฟัง
ฮันเทจุนอยู่บ้าน ก็ถูกปู่อนลซักถามใหญ่ว่าชื่ออะไร เป็นใคร มาจากไหน ฮันเทจุน แนะนำตัวเองให้ปู่อนลฟัง บอกว่าเขาชื่อฮันเทจุน ให้เรียกเขาว่าเทจุน ซึ่งแปลว่าหิมะ ปู่ฟังฮันเทจุนเล่าเรื่องตัวเองอย่างสนใจ
"พูดภาษาไทยได้ดีนี่น่ะ ไปเรียนมาจากไหนล่ะ"
"ที่อเมริกาครับ ตั้งแต่ตอนผมไปเรียนต่อ ผมชอบเรียนรู้อะไรนอกตำราไปเรื่อยๆ อย่างละนิดอย่างละหน่อย ช่วงกลางคืนพอมีเวลาว่างก็เลยไปเรียนภาษา"
"คนหนุ่มๆ ก็อย่างนี้แหละนะ เรี่ยวแรงเยอะ แล้วนี่จะมาเที่ยวกี่วันล่ะ"
"ผมไม่ได้มาเที่ยวหรอกครับ ... ผมจะมาอยู่ที่นี่"
"มาอยู่ที่นี่งั้นเหรอ" ฮันเทจุนยิ้มให้ปู่อนลอย่างสดใส
ที่เกาหลี... ฮันเทจุนหนีมาเมืองไทยโดยไม่ได้บอกให้ใครรู้ ทำให้มามารินเสียใจร้องไห้ไม่หยุดหย่อน จีแฉวูเป็นห่วงฮันเทจุน จึงให้ฮันจินซบออกตามหาลูกชายกลับมา แต่ฮันจินซบไม่สนใจ และไม่คิดจะต้อนรับลูกชายกลับบ้านอีกครั้ง
ฮันเทจุน หายออกไปจากห้องพักทั้งวัน ชอยยองกี โทร.หาก็ไม่ติด จนเขากลับมาบ้านอีกครั้งในยามค่ำคืน จึงถูกชอยยองกีต่อว่าที่ไม่ยอมเปิดเครื่อง แถมยังกลับมาด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่อีกต่างหาก
"เฮ้ย เดี๋ยวๆ ตอนไปไม่ได้แต่งตัวชุดนี้นี่หว่า ไปทำอะไรมาเนี่ย"
"ก็นี่ล่ะ สาเหตุที่นายโทร.หาฉันไม่ติด" ฮันเทจุนหยิบมือถือที่ชุ่มไปด้วยน้ำให้ชอยยองกี ดู ชอยยองกีหัวเราะชอบใจ
"ไปทำยังไง โทรศัพท์ถึงได้ตกน้ำฮะ"
"ไม่ใช่แต่โทรศัพท์นะ ฉันก็ตกด้วย...แต่ก็คุ้มนะ" ฮันเทจุนบอกยิ้มๆ
"ตกน้ำตกท่าจนข้าวของเจ๊งเนี่ยนะคุ้ม คุ้มตรงไหนวะ" ฮันเทจุนได้แต่ยิ้ม ไม่ตอบอะไร ทำให้ชอยยองกีสงสัย
ที่โต๊ะอาหารบ้านปู่อนล...อินทิราคุยกับปู่เรื่องฮันเทจุนตลอดการสนทนาทำให้อเนชาสงสัย
"นายเกาหลีอะไรกันครับ"
"เขาชื่อเทจุน...ฮันเทจุน" อินทิราพึมพำชื่อฮันเทจุนเบาๆ กับตัวเอง
"แปลว่าหิมะ"
"หืมม์...ท่าทางคุณปู่จะติดใจนายฮันเทจุนคนนี้ซะแล้วมังคะเนี่ย รู้ไปซะหมดเชียว"
"เขาช่วยยัยอินไว้ไม่ให้ตกน้ำน่ะ แต่เจ้านี่ดันไปดึงเขาตกน้ำตามไปด้วย ก็เลยพากันมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านเราเมื่อเช้านี้"
"คุณปู่เข้าใจผิดแล้วล่ะคะ อินน่ะไม่ได้เป็นคนพาเขามานะคะ หนูจันต่างหากที่เป็นคนชวน" อเนชาหูผึ่งทันทีที่ได้ยินชื่อวราลี
"ท่าทางหนูจันจะชอบนายฮันเทจุนซะเหลือเกินคุยกันแจ๊ดๆ มาตลอดทางเลย อินนะหูจะแตก" อเนชาหน้าบึ้งวางช้อนไปทันที
"อิ่มแล้ว" อเนชาบอกแม่อุ่น
"อิ่ม...ก็...เพิ่งจะไห้เติมข้าว..."
"บอกว่าอิ่มก็อิ่มสิ จะให้กินอะไรนักหนา แค่นี้ยังอ้วนไม่พอหรอ"
แม่อุ่นทำหน้างงที่อเนชาหงุดหงิด เลยงอนเก็บหม้อข้าวเดินหนีไป ปู่อนลเห็นท่าทีหลานชายแล้วถอนใจออกมาแรงๆ อย่างเหนื่อยใจ
อเนชามายืนเครียดอยู่ที่ศาลาท่าน้ำ ปู่อนลตามมานั่งคุยด้วย เพราะรู้ว่าหลานชายหงุดหงิดเรื่องวราลี
"ดึกแล้ว ทำไมยังไม่นอนล่ะครับ"
"นั่นสิ ทำไมยังไม่นอน ออกมายืนตากลมตากน้ำค้างทำไมกัน ฮึ"
"ตั้งแต่กลับมาผมได้ยินชื่อหนูจันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่ผมจะได้เจอหนูจัน" ปู่อนลนิ่งไปอึดใจ
"แล้วจะอยากเจอเขาไปทำไม"
"ปู่ก็น่าจะทราบว่าทำไม"
"ถ้าอย่างนั้นแกก็น่าจะรู้ว่าทำไมแกถึงไม่เจอเขาสักที" อเนชาหันมามองหน้าปู่อนลด้วยแววตาฉงน
"อยากเจอเขาเพราะคิดถึงใช่มั้ย...ถ้าเขาคิดถึงแกเหมือนกัน เขาก็คงมาให้แกเห็นแล้วไม่ใช่เหรอ" อเนชาวาบในใจขึ้นมาทันที หน้าร้อน ใจเต้นด้วยความรู้สึกที่รุนแรง
"เวลาผ่านไป อะไรๆ ก็ย่อมต้องเปลี่ยนตาม... สามปีไม่ใช่เวลาน้อยๆ นะเจ้าชา" อเนชาอึ้งไป ใจหายเหมือนกันเมื่อคิดว่าวราลีคงลืมเขาแล้ว
คืนนั้นฮันเทจุนค้นคว้าหาความหมายของคำว่า 'อินทิรา' อย่างขะมักเขม้น แต่ตำราเล่มไหนก็ไม่มีชื่อนี้สักเล่มเดียว ถึงกระนั้น ฮันเทจุนก็รู้สึกมีความสุขเมื่อคิดถึงหญิงสาวที่สวยน่ารักแถมแก่นแก้วอีกต่างหาก
ชอยยองกี ก็เช่นกันวันนี้รู้สึกเหงาๆ จึงเอารูปของมามารินที่แอบถ่ายมานั่งดู รู้สึกคิดถึงเจ้าของรูปถ่ายจับใจ แต่ก็ต้องตัดสินใจเก็บไว้ที่เดิม เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ที่อยู่กันสุดเอื้อม ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่