"เทจุนน่ะ ถึงจะดูร่าเริง สนุกสนาน เขาอาจจะชอบหัวเราะ เขายิ้มง่าย แต่บางครั้งฉันก็เห็นว่าเขามีสีหน้าแบบเดียวกับคุณ"
"แล้วเธอล่ะ มีสีหน้าแบบไหน" อินทิราไม่เข้าใจคำถาม
"รู้ตัวรึเปล่า"
"คุณคงต้องเป็นคนบอกฉัน"
"เธอมีสีหน้าของหญิงสาวที่ไร้เรียงสา มีความสุขเต็มไปด้วยความสดใส และมันทำให้คนอื่นพลอยมีความสุขไปด้วยเมื่ออยู่ใกล้ๆ เธอ" อินทิรายิ้มรับแทนคำขอบคุณ
อินทิราเล่าเรื่องกิจการโรงแรมที่บ้านให้ฮันจินซบ ฟังซึ่งแตกต่างกับการทำงานเกี่ยวกับกิจการเรือเดินมหาสมุทรของฮันจินซบ
"คนบางคนก็ไม่ใช่นักเดินทาง... เขาอาจจะดูเหมือนใช่ แต่เขาไม่ใช่ และก็ไม่มีวันได้เป็นด้วย"
"คุณหมายถึงใคร"
"เทจุน เขาเป็นลูกชายคนเดียวของฉัน ลูกชายที่จะรับสืบทอดทุกอย่างต่อจากฉัน"
"แล้วทำไมคุณพูดถึงเขาแบบนั้น คุณโกรธที่เขาไปเมืองไทยเหรอ"
"ฉันดีใจที่ได้เขากลับมา และหวังว่าเขาจะไม่ไปไหนอีก" น้ำเสียงฮันจินซบแปลกๆ
"เทจุนไม่ได้เกิดมาเพื่อมีชีวิตตามใจตัวเอง เขาเกิดมาพร้อมทุกสิ่งที่ฉันสร้างเอาไว้ หน้าที่ของเขาคือสืบทอดไม่ใช่ละทิ้ง"
"คุณเคยบอกเขารึเปล่า"
"เขาเคยบอกเธอรึยัง ถ้าเธอคือพลับที่ดึงเขาไปสู่ที่อื่น ฉันขอให้เธอไปซะ ไปจากชีวิตของเทจุน" อินทิราตกใจ มองหน้าฮันจินชบ
"ทำไมคุณต้องพูดอะไรแบบนี้ด้วย"
"ความรักมักทำให้คนเราอ่อนแอเสมอ ฉันต้องการให้ฮันเทจุนเข้มแข็ง"
"ไม่จริง ความรักทำให้คนเรากล้าหาญไม่ใช่อ่อนแอ"
"แต่ไม่ใช่สำหรับเทจุน"
"คุณรู้ได้ยังไง"
ฮันจินซบย้ำชัดว่าฮันเทจุนเป็นลูกชายคนเดียวของเขา เขาไม่ต้องการให้ฮันเทจุนไปไหนและฮันจินซบเองไม่มีวันที่จะปล่อยเทจุนไป อินทิราจึงย้อนถามฮันจินซบว่าทำไมเขาจึงคิดว่าเธอจะอยู่กับฮันเทจุนที่นี่ไม่ได้ ฮันจินซบมองหน้าอินทิราอึ้งๆ
"กลับบ้านซะ อินทิราเธอคงไม่อยากให้เทจุนต้องเสียทุกอย่างที่เป็นของเขาเพราะเธอหรอกนะ"
ฮันจินซบไม่เห็นด้วยที่อินทิราจะมาใช้ชีวิตที่นี่กับฮันเทจุน เขาต้องการให้ฮันเทจุนอยู่ภายใต้การดูแลของเขาคนเดียว ฮันจินซบคิดอย่างคนเห็นแก่ตัวที่ไม่สนใจความรู้สึกของลูกชาย
"คุณเป็นคนใจร้าย คุณใจร้าย!!"
อินทิรารู้สึกผิดหวังในตัวฮันจินซบ น้ำตาคลอ วิ่งกลับไปที่บ้านพัก
มาถึงบ้าน อินทิราก็ร้องให้ชอยยองกีพาพวกเธอกลับไปที่โซล ชอยยองกีเห็นหน้าตาหม่นหมองของอินทิราก็พอจะรู้ว่าเธอถูกฮันจินซบทำอะไรมา ชอยยองกีพาทุกคนกลับไป โดยไม่ทันได้บอกให้ฮันเทจุนรู้
เมื่อชอยยองกีพาทุกคนกลับไปแล้ว ฮันเทจุนจึงกลับมาที่ห้องอาหารอีกครั้ง เห็นฮันจินซบเดินกลับมาคนเดียว ถามหาอินทิรา เขาก็ไม่ยอมบอกว่าเธอไปไหน
ฮันเทจุนตามหาอินทิราไปทั่ว แต่ก็ไม่พบเห็นใครอีกแล้ว นอกจากมามารินที่ยืนมองย่างสะใจที่ฮันจินซบไล่อินทิรากลับไปได้
"ทำแบบนี้แล้วมีความสุขกันมากใช่มั้ย"
"มามารินไม่ได้ทำอะไร"
"อยากจะเชื่ออย่างนั้นก็ได้ อยากจะคิดว่าตัวเองไม่ผิดก็ตามใจ ถ้าการทำร้ายคนอื่นมันทำให้เธอมีความสุข พี่ก็คงช่วยอะไรเธอไม่ได้อีกแล้ว"
"แล้วพี่เคยช่วยอะไร พี่เคยช่วยอะไรเหรอ พี่มีแต่วิ่งหนี พี่หนีน้องมาตลอด แต่กับผู้หญิงคนนั้น พี่กลับวิ่งตามเขา ดูสภาพพี่สิ พี่อย่าเถียงนะ ว่าพี่ไม่ได้วิ่งกลับมาที่นี่ วิ่งกลับมาหาเขา"
มามารินรู้สึกริษยาที่ฮันเทจุนรักอินทิรามากกว่าตัวเอง จึงพูดจาไม่ดีออกมา จีแฉวูตกใจรีบห้ามลูกสาว ฮันเทจุนทำท่าจะวิ่งตามอินทิราออกไป แต่กลับล้มลง เลือดกำเดาไหลเป็นทาง ทำเอาทุกคนตกใจ
ทุกคนกลับมาพักที่โรงแรมในโซลอีกครั้ง อินทิราปิดห้องเก็บตัวเงียบ ไม่ยอมพูดจากับใคร เพราะยังเสียใจกับคำพูดและการกระทำของฮันจินซบ เธอไม่รู้เลยว่าขณะนี้ฮันเทจุนกำลังนอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยายาบาล
อินทิราเป็นเช่นนี้ยิ่งทำให้อเนชาโกรธฮันเทจุนมากขึ้น จึงฝากชอยยองกีไปบอกว่าชาตินี้เขาจะไม่ได้เห็นหน้าอินทิราอีก ทำให้วราลีไม่พอใจ ทั้งสองจึงทะเลาะกัน
"คุณมีสิทธิ์อะไรไปใช้อารมณ์กับเขา ยองกีเขาไม่เกี่ยวอะไรด้วย"
"เธอต่างหากมาเกี่ยวอะไรด้วย" อเนชาตวาดใส่
"ฉันอาจจะไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา แต่คุณอย่าลืมสิว่าหนูอินเป็นเพื่อนรักของฉัน แค่ฉันเห็นหนูอินร้องไห้เสียใจ โดยที่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แค่นี้ฉันก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว ฉันไม่อยากให้คุณทำให้ทุกอย่างมันเลวร้ายลงไปอีก" วราลีโกรธปี๊ด
"แล้วทำไมเธอถึงคิดว่าฉันอยากให้ทุกอย่างมันเลวร้าย ฉันก็รักหนูอินไม่น้อยไปกว่าเธอ อย่าลืมสิว่าฉันเป็นพี่ชายของเขา" วราลีอึ้งไป ตกใจเสียงตวาดของอเนชา
"ฉันก็แค่ไม่ต้องการให้ใครมาทำให้น้องต้องเสียใจ พี่ชายจะปกป้องน้องสาวมันผิดตรงไหนเหรอ" อเนชาเสียงอ่อนลง แล้วปึงปังออกไปจากห้องไป
ฮันเทจุนป่วยเป็นโรคเนื้องอกในก้านสมองโรคเดียวกับแม่ของเขาที่เสียชีวิตไป เป็นโรคที่เกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับการเกิดของฮันเทจุน ฮันทจินซบจึงเลี้ยงฮันเทจุนให้อยู่ในกรอบเพื่อที่เขาจะได้ดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ฮันเทจุนกลับคิดว่าเขาถูกพ่อบังคับ จึงเกิดการต่อต้านจนถึงเวลานี้ฮันจินซบจึงบอกให้ฮันเทจุนรู้ความจริง
"โรคที่ทำให้แม่ต้องตาย... ทำไมพ่อไม่บอกผม..." ฮันเทจุนน้ำตาซึม
"บอกแล้วแกจะเป็นยังไง ใช้ชีวิตไปวันๆ เพื่อรอความตายอย่างนั้นเหรอ"
"แต่ผมมีสิทธิ์ที่จะรู้จักชีวิตของผม มันเป็นชีวิตของผม"
"แต่แกเป็นลูกของฉัน ฉันมีหน้าที่ปกป้องแก"
"แต่ไม่ใช่แบบนี้!!" ฮันจินซบเศร้าใจ ก่อนจะพูดสิ่งที่เก็บไว้ในใจมาตลอด
"ฉันก็อยากเป็นพ่อที่ดีไม่ต่างจากพ่อคนอื่นๆ หรอก ตั้งแต่แกออกจากบ้าน ฉันไม่เคยคิดที่จะตามหาตัวแกเพราะฉันรู้ว่ายังไงแกก็ต้องกลับมา แกมันอ่อนแอเกินกว่าจะไปจากฉัน แต่คาดไม่ถึงว่าแกจะต้องกลับมาเร็วขนาดนี้..."
ฮันจินซบซ่อนน้ำตาไว้ไม่อยู่ ก้มหน้าร้องไห้ ฮันเทจุนคิดไม่ถึงว่าตนจะต้องตายในอีกไม่นานนี้
ชอยยองกีเข้ามาเยี่ยมเพื่อนรักด้วยแววตาเศร้าสงสารที่ฮันเทจุนต้องป่วยด้วยโรคร้าย
"ฉันกำลังจะตายใช่มั้ย"
"ทุกคนก็กำลังจะตายกันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ... เราต่างก็กำลังเดินหน้าไปสู่ความตายกันทั้งนั้นแหละ" ชอยยองกีกลบเกลื่อนความเศร้า
"ยังรักษาได้นะ"
"แต่มันเสี่ยงเกินไป... ฉันรู้หมดแล้ว"
"เสี่ยงซะบ้าง ก็ดีนี่"
"คนที่จะยอมเสี่ยง คือคนที่พอจะมองเห็นความหวังไม่ใช่เหรอ... นายก็รู้ว่าฉันไม่มี"
"ถ้าหนูอินมาได้ยินนายพูดคำนี้ เธอคงเสียใจ"
เมื่อได้ยินชื่ออินทิราฮันเทจุนรีบห้ามไม่ให้ชอยยองกีบอกอินทิรารู้ว่าเขาป่วย ชอยยองกีคงไม่มีโอกาสบอกอีกแล้ว เพราะเธอกำลังจะกลับเมืองไทย
ฮันเทจุนตัดสินใจหนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปพบกับอินทิราเป็นครั้งสุดท้าย... ฮันเทจุนรีบมาที่สนามบินและเดินตามหาเธอไปจนทั่วแต่ก็ไม่เห็นกลุ่มของอินทิรา ขณะที่อินทิราก็พยายามมองหาฮันเทจุนเช่นกัน
ฮันเทจุนมองหาอินทิราจนตาเริ่มพร่ามัว เริ่มหายใจหอบ แต่ยังหาไม่พบ จนเขาตัดสินใจจะตะโกนขึ้นมาดังลั่น
"อินทิรา"
อินทิราชะงักเหมือนได้ยินเสียงเรียก เมื่อหันกลับไปมองแต่ไม่เห็นใคร เพราะเวลานั้น ฮันเทจุนได้นอนนิ่งหมดสติอยู่ที่พื้น ไม่ไกลจากกลุ่มของอินทิรามากนัก