หิมะใต้พระจันทร์ ตอนที่ 29
8 กรกฏาคม 2549 เปิดอ่าน 8,991 ครั้ง


วราลีรวบรวมเงินได้ก้อนใหญ่ จึงเอาไปซื้อที่ ที่สวนผักตรงที่ตั้งใจว่าจะทำเป็นร้านอาหารและคุยอวดให้อเนชาฟังมาแล้วหลายครั้ง แต่เมื่อนำเงินไปซื้อเจ้าของสวนกลับบอกว่าขายให้คนอื่นไปแล้ววราลีจึงโวยวายอย่างไม่พอใจ

วราลีเดินหงอยๆ ไปที่บ้านปู่อนล เธอเศร้าจนไม่อยากกลับไปบ้าน แต่อเนชาคิดว่าเธอมาหา

"ใครทำอะไรหนูจันเหรอ ทำไมทำหน้าเศร้าแบบนี้ล่ะ มีอะไรให้ผมช่วยได้รึเปล่า" อเนชาถามเสียงนุ่มหู วราลีฟังแล้วหวาดๆ

"เห็นมั้ย พอฉันพูดดีๆ เธอก็ไม่เชื่อ ตกลงจะบอกหรือไม่บอก ไม่บอกฉันจะเข้าบ้านแล้วนะ" อเนชาทำลุกหนี

"มีคนมาซื้อที่ของฉันไปแล้ว" อเนชาชะงัก หันหน้ากลับมามอง เห็นวราลีทำหน้าจะร้องไห้

"เมื่อไหร่"

วราลี ส่ายหน้า ร้องไห้ออกมา

"เฮ้อ... ก็เธออยากชักช้าเองทำไมเล่า"

"ก็ฉันไม่มีเงินนี่!!"

"งั้นก็ช่วยไม่ได้ ของเขามีไว้ซื้อไว้ขาย เธออยากไม่มีเงินเองนี่นา ร้องไห้ไปก็เท่านั้น เงียบได้แล้ว หนวกหู" อเนชาว่าแล้วลุกหนีไป

"คนใจร้าย! ใจดำที่สุด! ไปให้ไกลๆ" วราลีตะโกนตามหลัง

"ก็ไปอยู่นี่ไง!" อเนชาตะโกนกลับมา

"ต่อไปนี้ฉันจะไม่มีวันพูดกับคุณอีกเลย!!" วราลีน้ำตาคลอด้วยความเสียใจ อุตส่าห์มานั่งรอ

ฮันเทจุนกับอินทิรานั่งคุยกันในสวนกล้วยไม้ รอบๆ กายมีเทียนล้อมรอบ ฮันเทจุนนอนหนุนตักอินทิราอยู่ ทั้งสองคนกำลังเล่นต่อคำกันอยู่แล้วจู่ๆ ฮันเทจุนก็หลับไป ทำเอาอินทิราตื่นตระหนก

"นี่ อย่าเพิ่งหลับสิ ตอบฉันมาก่อน ตื่นเดี๋ยวนี้นะ" อินทิราตบแก้มเบาๆ

"ตื่นสิ ชวนฉันเล่นแล้วมาหลับหนีได้ยังไง" ฮันเทจุนนิ่งไม่ไหวติง

"เทจุนตื่น...เทจุนตื่น...เทจุน!!!"

ฮันเทจุน ชักใจไม่ดี ทำอะไรไม่ถูก ร้องไห้ออกมา

"เทจุน คุณต้องตื่นเดี๋ยวนี้นะ คุณอย่าทำอย่างนี้สิเทจุน ไหนคุณบอกว่าอยากรู้จักฉันไง คุณไม่อยากรู้แล้วเหรอว่าฉันชอบอะไร เทจุนตื่นสิ!" ฮันเทจุนลืมตาขึ้นมายิ้มเผล่

"ตื่นแล้ว"

"คุณทำแบบนี้ทำไมล่ะ" อินทิราร้องไห้โฮ ฮันเทจุนรีบลุกขึ้นนั่ง ตกใจเหมือนกัน

"ร้องไห้ทำไม ผมแค่แกล้งคุณเล่นเองน่ะ"

"แล้วคุณแกล้งฉันทำไม"

"ก็คราวที่แล้ว ผมไม่ยอมตื่น คุณจูบผมนี่ ผมก็เลยแกล้งไม่ตื่นอีกไง คุณจะได้... จูบผมอีกไง" อินทิรามองหน้าฮันเทจุนน้ำตาไหลพรากๆ ฮันเทจุนเช็ดน้ำตาให้

"ผมจะไม่แกล้งอีกแล้วอย่าร้องไห้นะ"

"สัญญานะ"

"สัญญา"

"เล่นต่อนะ... เราจะได้รู้จักกันให้มากที่สุดไง"

ฮันเทจุนมองอินทิราด้วยความรักแสนรัก ขยี้หัวอินทิราเบาๆ

****


ชอยยองกีตัดสินใจลาออกจากบริษัทชอยยองกี เพื่อไปใช้ชีวิตตามลำพังตามความฝันที่อยากมีท่าเรือเป็นของตัวเอง วันที่เขาออกจากบ้านตระกูลฮัน มามารินออกมาส่งเขาที่หน้าบ้าน ชอยยองกีตัดสินใจชวนมามารินไปกับเขาด้วย

"ไปด้วยกันมั้ย "

"ฉันเนี่ยนะ"

เสียงของมามารินทำเอามือชอยยองกีที่กำเครื่องรางไว้หมดแรงด้วยความผิดหวัง เพราะรู้คำตอบนั้นดีก่อนจะโค้งให้มามาริน แล้วเดินออกไปเงียบๆ

เมื่อชอยยองกีออกไปจากเตยัง ฮันจินซบจึงเรียกมามารินมาอบรม เพื่อให้เธอทำตัวเป็นผู้ใหญ่ จะได้เข้ามาดูแลเตยังแทนตน มามารินไม่คิดอยากทำงานนี้ แต่ฮันจินซบขอร้องทำให้มามารินหนักใจมาก

"เราต้องอยู่กับเตยังไปตลอดจริงๆ เหรอคะ" มามารินย้อนถามจีแฉวูเมื่อมีโอกาสคุยกัน

"แล้วมันไม่ดีรึไง..."

"ท่าเรือเตยังอาจจะใหญ่เกินไปสำหรับมามาริน... มันถูกสร้างไว้ให้พี่ฮันเทจุน..."

"แต่ต่อไปนี้มันจะเป็นของมามาริน... เทจุนเองก็อยากให้มันเป็นอย่างนั้น ลูกจะขัดใจทั้งพ่อแล้วก็เทจุนเลยเหรอ"

"ถ้าทำได้... มามารินอยากมีท่าเรือเป็นของตัวเอง"

"เราทุกคนย่อมต้องมีท่าเรือเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น... ชีวิตคนเราจะเอาแต่เดินทางฝ่าคลื่นลมมรสุมไปตลอดไม่ได้หรอก... เรือที่ไม่เข้าเทียบท่าก็เหมือนคนที่ไม่มีบ้านให้กลับ และถ้าเป็นอย่างนั้น ชีวิตจะมีความสุขได้ยังไงกันล่ะ จริงมั้ย... เลือกชีวิตของเราให้ดี เพราะเราต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต"

คำพูดของจีแฉวูเหมือนเปิดทางให้มามารินตัดสินใจทำตามที่ตัวเองต้องการ เธอหันมาสบตาแม่อย่างดีใจ สองแม่ลูกกอดกันแน่น

"มามารินต้องหาท่าเรือของตัวเองให้เจอ" มามารินยิ้มให้แม่อย่างขอบคุณ

ในที่สุดมามารินก็ตัดสินใจหิ้วกระเป๋าออกจากบ้านตระกูลฮันไปหาชอยยองกีที่หมู่บ้านของเขา เพื่อตามหาเส้นทางชีวิตและตามหัวใจของตัวเอง ทิ้งให้ฮันจินซบและจีแฉวูอยู่กับอาณาจักรของพวกเขาเพียงลำพัง

****


วราลีผิดหวังที่ไม่ได้ที่ริมน้ำตามที่ตั้งใจไว้ เพราะมีคนซื้อตัดหน้าไปแล้ว เธอจึงไปสมัครงานเป็นแม่ครัว ซึ่งมีการติดต่อให้เธอไปสัมภาษณ์เพื่อไปเป็นเชฟที่ลอนดอน พอเนชารู้ก็ร้อนใจ รีบพาวราลีไปดูที่ ที่เธอต้องการซื้อทันที

วราลีวิ่งหนีอเนชามาหยุดที่ทางเข้าไร่ ก้มหน้าเหนื่อยแทบขาดใจ พื้นตรงหน้าวราลีมีดอกราชาวดีตกลงมาบนพื้น วราลีชะงักเงยหน้าขึ้นมอง แล้วทำหน้าประหลาดใจ เพราะที่ดินริมน้ำผืนนั้น มีต้นราชาวดีที่เพิ่งปลูกใหม่ๆ หลายต้น มีซุ้มพวงแสดออกดอกสีส้มตั้งเป็นซุ้มอยู่บริเวณสะพานเล็กๆ ที่ยื่นลงไปในแม่น้ำ เธอจำได้ว่าเคยบอกความต้องการนี้ให้กับอเนชาได้รับรู้

อเนชาเดินเข้ามาหาวราลี เห็นเธอน้ำตาคลออยู่อยากจะพูดดีๆ ด้วย แต่ก็อด ปากเสียไม่ได้

"ใช่แบบนี้รึเปล่าล่ะ ที่เธออยากได้น่ะ"

"คุณเองน่ะเหรอที่ซื้อที่ผืนนี้"

"ก็... เธออยากได้ไม่ใช่เหรอ"

"คุณก็เลยแย่งมันไปใช่มั้ย สนุกมากนักเหรอที่ทำให้ฉันต้องเสียใจ สนุกพอรึยัง" วราลีโกรธเพราะเข้าใจผิด

"ฉันซื้อให้เธอ" วราลีชะงักหันมามองอเนชาไม่กล้าสบตากลัวความลับรั่วไหลทางสายตา

"ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกนะไอ้พวกต้นไม้เนี่ย แต่ฉันหวังว่ามันคงเป็นต้นเดียวกับที่เธอเคยพูดถึง ส่วนเรื่องครัวของเธอน่ะ เธอต้องบอกฉันมาก่อนว่ามันเป็นแบบไหนไม่งั้นฉันก็สร้างให้เธอไม่ถูกหรอก เดี๋ยวไม่ถูกใจก็มาด่าฉันอีก" วราลีอึ้งไป ก่อนจะเริ่มร้องไห้ออกมา

"ทำไมคุณต้องทำแบบนี้ด้วย ทำไมฉันถึงหนีคุณไม่พ้นสักที"

วราลีปล่อยโฮออกมาแล้ววิ่งหนีไป อเนชาทรุดฮวบด้วยความผิดหวัง

ภาพยนตร์บันเทิง

ละคร

โฟร์ สลัดคราบนักร้องแอ๊บแบ๊ว!! สั่นสู้เลิฟซีน พีท ผ่านฉลุย!! อาร์เอส
โฟร์ กรี๊ด อีหวี ติดปาก!!! ปลื้ม ดงดอกงิ้ว บทแรงส่งแจ้งเกิด หนังสือพิมพ์แนวหน้า
ละครดงดอกงิ้ว ช่อง 8
โฟร์ ทุ่มสุดตัว ซุ่มศึกษาชีวิตพริตตี้!! หนังสือพิมพ์แนวหน้า
โฟร์ เตรียมขึ้นแท่น นางร้ายป้ายแดง หนังสือพิมพ์แนวหน้า
โฟร์ ปิดตำราแบ๊ว รู้ตัว นางร้ายสายแอ๊บ อาร์เอส
"วุธ" หวานขอ "โฟร์" แต่งงาน ปิดฉากใน "มนต์รักตลาดสด" หนังสือพิมพ์ แนวหน้า
"โฟร์" เจอใบสั่งผกก.สวมชุดลิเก หนังสือพิมพ์ แนวหน้า
"โฟร์-ตุ๊ก" โดนพ่อค้า-แม่ค้าเปิดสงครามผัก! หนังสือพิมพ์ แนวหน้า
'โฟร์' ติดคิวช่อง 8 ชวดละครฟรีทีวี หนังสือพิมพ์ ข่าวสด
ดูทั้งหมด




Blackcatify
Yes it shirt
Red Army Fanclub