หิมะใต้พระจันทร์ ตอนที่ 30 (จบบริบูรณ์)
8 กรกฏาคม 2549 เปิดอ่าน 14,179 ครั้ง


ชอยยองกีมาทำงานอยู่ที่ท่าเรือแห่งหนึ่ง มามารินเห็นชอยยองกีกำลังง่วนอยู่กับการขายปลา จึงเข้าไปถามเรื่องปลา ชอยยองกีจำเสียงเธอได้ จึงหันมามอง เขารู้สึกดีใจแต่ก็ไม่คิดว่ามามารินจะมาจริงใจกับตัวเองจึงทำเป็นไม่สนใจ

"มาได้ยังไง"

"ถามว่ามาทำไมสิ... ไม่อยากรู้เหรอ" ชอยยองกีเงียบไปอึดใจ

"ไม่โกรธหรอก"

"แล้วต้องทำยังไงถึงจะโกรธ"

"ทำยังไงก็ไม่โกรธ"

"แล้วต้องทำยังไงถึงจะรัก" ชอยยองกีหันมาสบตาแล้วเหม่อไปทางทะเล

"ไม่ต้องทำ ยังไงก็รัก" มามารินน้ำตาไหลด้วยความยินดี มองไปที่เรือของชอยยองกีเห็นเครื่องรางแขวนอยู่ที่เรือ

"ยังเก็บไว้อีกเหรอ"

"ก็เผื่อจะโชคดีกับเขาบ้าง"

"เชื่อด้วยเหรอ"

"เชื่อสิ... ก็กำลังโชคดีอยู่นี่ไง"

"ที่นี่หนาวมากมั้ย"

"มาก"

"ถ้าอยู่สองคน จะอุ่นขึ้นมั้ย"

"มาก"

ชอยยองกีตอบสั้นๆ แต่มีความหมายมากสำหรับมามาริน เขาดึงเธอเข้ามากอด มามารินกอดตอบด้วยความอบอุ่นของหัวใจ

วราลีพยายามจะโกรธจะเกลียดอเนชา เขาทำเหมือนจะรัก แต่ก็ไม่เปิดเผยความในใจ จึงต้องพยายามตัดใจไม่อยากใกล้ชิดอเนชากลัวจะเสียเธอไปจึงตัดสินใจมอบบันทึกเล่มที่ปู่อนลให้เขียนตอนไปเรียนเมืองนอกให้วราลี... หญิงสาวเอาบันทึกเล่มนั้นมาอ่าน ตั้งแต่วันแรกที่อเนชาไปอยู่เมืองนอก เขาเขียนถึงเธอทุกวัน

หลังจากอ่านจบแล้ว วราลีจึงได้รับรู้ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา อเนชามีใจให้กับเธอมาตลอดเวลา... วราลีตัดสินใจไปหาอเนชาที่บ้าน

"ทำไมคุณไม่บอกฉันตั้งแต่แรก" วราลีเหมือนต่อว่า

"แล้วคนอย่างฉันพูดอะไรแบบนั้น มันน่าเชื่อตรงไหนเหรอ เธอก็รู้นี่ว่าฉันมันเป็นยังไง ถ้าฉันบอกว่าคิดถึงเธอจะเชื่อเหรอ" วราลีอึ้งไปเหมือนกัน

"คุณจะคิดถึงฉันทำไมในเมื่อคุณไม่อยากเจอหน้าฉันตั้งแต่แรกแล้วนี่"

"ใครบอกเธอ"

"คุณพูดเอง... ฉันได้ยินคุณพูดกับคุณปู่ คืนก่อนคุณจะไป" อเนชานึกขำ

"เธอก็เลยคอยหลบหน้า คอยหนีฉันมาตลอดใช่มั้ย"

"คุณเป็นคนทำให้ฉันต้องหนี" อเนชาคว้ามือวราลีขึ้นมา

"ฉันไม่เก่งเรื่องพวกนี้หรอกนะ" อเนชาเอามือวราลีทาบลงที่หัวใจของตน

"ฉันไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในนี้ ฉันต้องดูแลอินทิราตั้งแต่เด็ก เธอก็รู้... หลังจากที่เราไม่มีพ่อแม่แล้ว ฉันจะเสียใจ หรืออ่อนแอไม่ได้ทั้งนั้น ฉันต้องเข้มแข็ง"

"ทั้งๆ ที่ในนี้ว่างเปล่าอย่างนั้นเหรอ"

"ว่างที่ไหนเล่า... ตัวเธอไม่ใช่เล็กๆ นี่" วราลีก้มหน้าแอบยิ้ม อเนชาเดินเข้ามาใกล้ๆ แต่ยังไม่ทันจะทำอะไร วราลีก็กระโดดจูบเขาซะก่อน

"ถึงคุณจะปากแข็ง แต่ตอนนี้ฉันก็รู้หมดแล้วว่าคุณคิดอะไรอยู่" วราลียื่นสมุดบันทึกคืนให้อเนชา แต่เขาบอกว่าให้เธอ

"ให้เหรอ"

"อืมม์... ของขวัญวันแต่งงาน"

"คุณว่าอะไรนะ" อเนชาทำเขินด้วยการเอาสมุดบันทึกทุบหัววราลีแล้วว่าเธอหูตึงไม่เลิก วราลีตีกลับบ้าง

"คุณก็ปากไม่ดีตั้งแต่เด็กจนโตเหมือนกันน่ะแหละ"

"ฉันจะมีลูกเจ็ดคนนะ บอกไว้ก่อน" วราลียิ้มเขิน

สองคนยืนเขินกันไปคนละทาง อเนชากระตุกๆ ดึงชายเสื้อวราลีให้เข้ามาใกล้แล้วกอดเอวไว้

****


ฮันเทจุนและอินทิรายังคงใช้ชีวิตอยู่กันตามลำพังที่สวนกล้วยไม้ เธอเรียกฮันเทจุนว่าหิมะ ฮันเทจุนเรียกอินทิราว่าแสงจันทร์ แม้จะมีความสุข แต่ทั้งคู่ก็แอบเศร้า เมื่อนึกถึงวันเวลาที่ใกล้เข้ามา... ฮันเทจุนล้มตัวลงนอนเหงาๆ

"ผมเคยบอกคุณรึยัง... ผมไม่อยากให้คุณไป"

"เดี๋ยวพอคุณตื่นมาก็เจอฉัน ฉันจะรออยู่ตรงนี้"

"แล้วถ้าผมไม่ตื่นล่ะ" อินทิราอึ้งไปใจหายวาบ เดินไปปิดสวิตช์ไฟ แล้วมายืนข้างเตียงฮันเทจุน

"งั้นฉันจะรออยู่ตรงนี้จนกว่าคุณจะตื่น..."

อินทิรานั่งลงบนเตียง ฮันเทจุนขยับตัวเข้ามานอนหนุนตัก ยิ้มแล้วหลับตาลงอินทิราพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลลงมา แต่ก็ยังหยดลงบนแก้มของฮันเทจุน ฮันเทจุนลืมตาขึ้นมามอง แล้วลุกขึ้นนั่งตรงหน้าอินทิรา อดไม่ได้ที่จะดึงเธอมากอดและจูบเธออย่างแสนรัก

เช้าวันรุ่งขึ้นอินทิราเห็นฮันเทจุนนอนหลับอยู่ที่เก้าอี้ในสวนกล้วยไม้ เธอจึงเดินเข้าไปหา ฮันเทจุนตื่นขึ้นมาอีกครั้งและชวนอินทิราดูกล้วยไม้แคทลียาที่กำลังบานสะพรั่งสวยงาม

"เล่าเรื่องนั้นให้ผมฟังอีกทีสิ" ฮันเทจุนบอกเสียงขอร้อง

"เรื่องอะไร"

"ก็รุ้งกินน้ำของคุณไง... เล่าให้ผมฟังต่อสิ"

"ไม่เอาหรอก เดี๋ยวคุณก็หลับอีก"

"ถึงหลับก็ได้ยิน"

"หลับแล้วจะได้ยินได้ยังไง..."

"เล่าต่อสิ ผมเหมือนรุ้งกินน้ำยังไง"

"เพราะคุณเป็นสิ่งมหัศจรรรย์ในชีวิตของฉัน... ทุกครั้งที่ฉันเห็นคุณ...มันสวยงาม... เวลาที่คุณหัวเราะ เหมือนกับมีสายรุ้งอยู่รอบๆ ตัวคุณ" ฮันเทจุนฟังเพลิน

"ฉันเคยบอกคุณรึยัง... ว่าคุณเป็นสายรุ้งกินน้ำที่สวยที่สุดตั้งแต่ฉันเคยเห็นมา" ไม่มีเสียงตอบจากฮันเทจุน

"อย่าบอกนะว่าคุณหลับอีกแล้ว" อินทิราก้มลงมองเห็นฮันเทจุนหลับตานิ่ง

"ไม่ต้องมาแกล้งเลยนะ ฉันรู้ทันคุณหรอกน่า" ฮันเทจุนยังคงนอนนิ่ง อินทิรามองหน้าแล้วชักแปลกใจ ค่อยๆ แนบหน้าลงกับหัวใจของฮันเทจุน... แล้วหน้าเริ่มเสีย

"เทจุน... อย่าทำอย่างนี้นะ... เทจุน คุณสัญญาแล้วนะ คนโกหก คุณสัญญาแล้วนะฮันเทจุน ตื่นสิ ตื่น... ไหนคุณบอกว่าคุณจะไม่หลับไง" ฮันเทจุนนอนนิ่งไม่ไหวติงแม้อินทิราจะปลุกเขาสักแค่ไหนก็ตาม เธอจูปปากเขาเบาๆ ทุกครั้งเขาเคยตื่นขึ้นมาแต่ครั้งนี้เขาไม่ตื่น อินทิราร้องไห้โฮลั่น... ฮันเทจุนจากเธอไปแล้ว!!

การจากไปของฮันเทจุน สร้างความเสียใจให้กับใครๆ หลายคน ไม่ว่าจะเป็นมามาริน ชอยยองกี ฮันจินซบ และอินทิราที่เสียใจอย่างหาคำบรรยายไม่ได้

หลังเสร็จงานศพของฮันเทจุน แล้ว อินทิราได้นำเถ้ากระดูกของฮันเทจุนไปโปรยทิ้งที่ทะเลในประเทศเกาหลี

"พ่อมันบอกกับผมเสมอว่าการมีชีวิตก็เหมือนกับการล่องเรือในมหาสมุทร ต้องผ่านทั้งคลื่นลมและมรสุมมากมายหากเรือลำไหนไม่แกร่งพอ ก็ต้องถูกกลืนหายไปในทะเล... ก็มีแต่เรือใหญ่ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะเอาชนะมหาสมุทรลงได้... ผมเคยบอกคุณรึยังผมไม่ใช่เรือที่กำลังจมลงสู่ใต้ท้องมหาสมุทร... ผมเป็นเรือที่ถึงฝั่งแล้ว... เรือที่ค้นพบท่าของตัวเอง"

เถ้าอังคารของฮันเทจุนลอยอยู่ในสายลมก่อนจะค่อยๆ ตกลงสู่พื้นน้ำ และจางหายไปกับกาลเวลา เหลือทิ้งไว้แต่ความทรงจำที่อยู่ในใจของอินทิราไม่เสื่อมคราม

จบบริบูรณ์

ภาพยนตร์บันเทิง

ละคร

โฟร์ สลัดคราบนักร้องแอ๊บแบ๊ว!! สั่นสู้เลิฟซีน พีท ผ่านฉลุย!! อาร์เอส
โฟร์ กรี๊ด อีหวี ติดปาก!!! ปลื้ม ดงดอกงิ้ว บทแรงส่งแจ้งเกิด หนังสือพิมพ์แนวหน้า
ละครดงดอกงิ้ว ช่อง 8
โฟร์ ทุ่มสุดตัว ซุ่มศึกษาชีวิตพริตตี้!! หนังสือพิมพ์แนวหน้า
โฟร์ เตรียมขึ้นแท่น นางร้ายป้ายแดง หนังสือพิมพ์แนวหน้า
โฟร์ ปิดตำราแบ๊ว รู้ตัว นางร้ายสายแอ๊บ อาร์เอส
"วุธ" หวานขอ "โฟร์" แต่งงาน ปิดฉากใน "มนต์รักตลาดสด" หนังสือพิมพ์ แนวหน้า
"โฟร์" เจอใบสั่งผกก.สวมชุดลิเก หนังสือพิมพ์ แนวหน้า
"โฟร์-ตุ๊ก" โดนพ่อค้า-แม่ค้าเปิดสงครามผัก! หนังสือพิมพ์ แนวหน้า
'โฟร์' ติดคิวช่อง 8 ชวดละครฟรีทีวี หนังสือพิมพ์ ข่าวสด
ดูทั้งหมด




Blackcatify
Yes it shirt
Red Army Fanclub