
ค่ายเพลงอย่างอาร์เอสเลยปล่อยหมัดเด็ด ซึ่งเพียงมองเผินๆ การเปิดตัวค่ายเพลงวัยรุ่นสำหรับพรีทีน 9-15 ปีนั้น ไม่แปลกเพราะว่าแต่เดิมแล้วอาร์เอสก็เป็นค่ายเพลงที่มีความถนัดในตลาดนี้อยู่แล้ว
ถ้ามองในแง่ร้ายการเปิดตัวของกามิกาเซ่ เหมือนจะไปพ้องกับ จีจูเนียร์ของฝั่งตรงกันข้าม อีกทางหนึ่งการเปิดเว็บไซต์สำหรับขายเพลงอย่าง www.zheza.com ก็เป็นเรื่องที่มีคนพยายามทำกันมานานแล้ว และที่ไม่ประสบความสำเร็จก็มีมากมาย
แต่การรวมเว็บไซต์กับศิลปินและเปลี่ยนจากเว็บไซต์ขายเพลงเฉยๆ เป็นเว็บคอมมิวนิตี้ ที่มีระบบคล้ายๆ เกมออนไลน์นี่สิคือหมัดเด็ดที่ว่า
สุทธิพงษ์ วัฒนจัง หรือ ชมพู ฟรุตตี้ ผู้บริหารค่ายกามิกาเซ่ และหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง บอกว่า จุดเริ่มต้นของค่ายนี้เกิดมาจากการที่แต่เดิมค่ายเมโลดิก้าของเขาไม่ชัดเจนเลย เพราะทำตั้งแต่เพลงเด็กผู้ใหญ่ไปจนถึงวัยรุ่นก็เลยอยากจะแยกค่ายเพลงให้ชัด
"คือตอนแรก ก็มีลูกน้องผมเขาอยากจะทำศิลปินแบบ เบอรี่โกบุ, โซโจมังงะ, มอร์นิ่ง มุซุเมะ ซึ่งเป็นกลุ่มศิลปินเด็กสาวที่มีตั้งแต่ 9-18 ปี 12 คน เป็นหนึ่งอัลบั้ม ทำแล้วก็ออกชุดเดียวแล้วก็ว่ากัน แต่ผมว่าไม่น่าจะทำแบบนั้นจะทำทั้งทีก็เป็นค่ายไปเลยดีกว่า แล้วต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับคนไทยได้ก็เลยเริ่มกันจากตรงนั้น"
สิ่งที่เป็นจุดประกายอีกอย่างก็คือเขามีของอยู่ โดยมีศิลปินเด็กๆ อยู่ นอกจาก โฟร์-มด ที่ย้ายมาให้เขาดูแลแล้วยังมี ศิลปินเด็กๆ 12-13 อยู่ในมือของค่ายเมโลดิก้าอีกหลายคน และก็ได้ชื่อค่ายกามิกาเซ่ มาจากหน่วยกล้าตายของญี่ปุ่น
"ชื่อมันบ้าบิ่นดี เรานึกถึงหน่วยกล้าตายสมัยสงครามโลก เป็นที่มีความกล้าหาญทำเพื่อองค์กรประเทศชาติได้ ก็เลยชอบชื่อนี้ แล้วแปลว่าสายลมแห่งพระเจ้า ก็เพราะดีเป็นมงคลด้วย และมันตรงคอนเซ็ปท์เราด้วย เราใส-ซ่า-บ้าบิ่น คือแบบเด็กๆ น่ารัก และก็กล้าทำอะไรแผลงๆ"
แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ต้องต้องเก่งเรียนเก่งเล่น ด้วยถึงจะครบสูตร
"ผมว่ามันเป็นคาแรคเตอร์ของเด็กรุ่นใหม่ที่ควรจะเป็น วัยรุ่นมันก็อย่างนี้ทั้งนั้น เราคิดว่าเราควรจะเพิ่มอะไรเข้า ไปให้ผลักดันเอเนอร์จี้ที่ดี ถ้าเขาอยู่กับกลุ่มที่ดี ก็จะพยายามจูงกันไปในทางที่ดี ส่วนหนึ่งมาจากลูกเรา เด็กๆ ผมก็เป็นแบบนั้น เพราะว่าพ่อผมเป็นลูกครึ่ง ผมไม่ใช่เด็กต้องประคบประหงม 10 ขวบ ก็ผัดข้าวกินแล้ว 14-15 ผมทำงานแล้วนะเล่นดนตรี ก็เลยรู้สึกว่ามันทำให้เด็กใช้ชีวิตแบบนี้คือเก่ง แต่เสียที่ว่ามันทำให้ก้าวร้าว เพราะว่าขาดความอบอุ่น เด็กฝรั่งก็จะแบบฉันไม่ต้องพึ่งใคร แล้วเวลาได้รับความอ่อนโยนจากพ่อแม่ก็น้อยลง เราเลยพยายามจะผสมตรงนี้ลงไป"
ถ้าใครจะบอกว่ามันก็เป็นแค่เรื่องธุรกิจที่เขาเปิดค่ายมาพร้อมกับ เปิดเว็บไซต์ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเดียวกันและก็เกื้อหนุนกัน ก็เป็นเรื่องธรรมดา
"คือเราทำธุรกิจ แต่เราก็คิดว่าอย่างไรคนถึงให้ความสนับสนุน มันต้องให้ความสุขและประโยชน์ด้วย ถ้าไม่มีประโยชน์รายได้มันจะได้แป๊บเดียว ถ้าอยากจะอยู่ยาวๆ มันต้องมีคุณค่าของมัน"
ซึ่งแผนการต่อไปของเขาถ้าได้กลุ่มวัยรุ่นชัดเจน ก็อาจจะมีการพากันไปทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งอาจจะเป็นในเรื่องของช่วยเหลือสังคมและถ่ายกิจกรรมดังกล่าวนำไปลงในเว็บไซต์และเป็นรายการทีวีให้คนอื่นได้ดู "เป็นการเสริมการกล้าแสดงออกในทางที่ดี" เขาว่า เพราะที่ผ่านมาที่มีข่าววัยรุ่นใช้ความกล้าแสดงออกไปในทางที่ผิด เพราะไม่มีที่สำหรับแสดงออกตอนนี้เขาเลยเปิดเอาไว้ให้
อย่างไรก็ตาม บางคนอาจจะไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาทำบ้าง อาจจะมองว่าเป็นเรื่องหลอกเด็กหรือไม่เหมาะสม เขายอมรับก็ไม่แปลกเพราะเขาพยายามพูดกับกลุ่มเด็กโดยตรงโดยพยายจะเป็นเพื่อน คนที่ไม่ใช่เด็กอาจจะไม่เข้าใจหรือคิดไม่เหมือนกันก็ได้ ปัญหาคือคนเดี๋ยวนี้พอเห็นไม่เหมือนกัน บางทีก็ทำลายกันเลยก็มี
"มันมีคนลงข่าวประมาณว่า ผมไปรับบัญชามาว่าให้ทำเซ็กซี่ให้เด็กกลุ่มนี้แล้วก็ว่าเราเป็นคนทำลายสังคม ซึ่งที่จริงน้องเขาก็ใส่ถุงน่องใส่ถุงเท้ายาวแทบไม่เป็นเนื้อเลย ไอ้คนถ่ายรูปถ้าไม่ไปนั่งยองๆ ถ่ายมันก็ไม่เห็นหรอก ใครกันแน่ที่เป็นคนทำลายสังคม มันก็เป็นกลุ่มไอดอลมันเป็นแฟชั่นน่ะ ไม่ได้ขายเรื่องแบบนั้นเลย"
สำหรับเขาที่แม้จะเป็นคนทำอัลบั้มของกลุ่มนักร้องสาวเซ็กซี่อย่างเกิร์ลรี่เบอรี่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่างานอื่นๆ เขาต้องเป็นแบบนั้น ทั้งๆ ที่เขาทำศิลปินมาตั้งมากมาย
"แต่ก็ทำใจได้นะ มันก็มีคนไม่ชอบเราอ่ะ บางทีก็แบบว่า เออ...เขียนข่าวแบบนี้มันเขียนแบบนี้มันขายได้ ก็ไม่ผิดนะมันเป็นช่องใหทำน่ะไม่ค่อยถูกแต่ก็ไม่ผิด แต่ต้องดูว่ามันใกล้เส้นมากไหม"
สิ่งที่เขาทำกับกามิกาเซ่และเว็บ www.zheza.com นั้นเขาอยากจะให้เป็นเหมือนสนามเด็กเล่นที่เด็กๆ เข้าไปเล่นกันได้ พูดคุยกันได้และใช้เวลาเล่นอยู่ในเว็บไซต์ได้ ถ้าจะมองว่าไร้สาระ เขาก็ถามว่าคนว่าน่ะ "ไม่เคยเป็นเด็กเหรอ?"
"ลืมไปหรือไงว่าเราเป็นเด็กก็เอาแต่เล่นเหมือนกัน ตอนเด็กเราก็คิดแค่นี้จะเอาความเป็นผู้ใหญ่ไปยัดให้เด็กอายุ 10-12 ได้ยังไง ผมยังซื้อเกมให้ลูกเล่นแล้วเล่นกับลูกด้วย แต่มันต้องรักษาสมดุลเท่านั้นเอง"
พ่อแม่บางคนอาจจะมองว่าเพลงรักๆ พวกนี้อาจจะทำให้ลูกไปสนใจเรื่องความรักก็ได้ เขาก็ว่าทำไมล่ะ

หลักในการทำงานของเขากับค่ายนี้ชมพูว่าเขาพยายามหาเด็กที่จะมาร่วมงานให้ได้อย่างที่เขาต้องการก่อน คือไม่ใช่เด็กเรียบร้อย เพราะเด็กที่แตกต่างมีความแผลงๆ ถึงจะเป็นคนที่นำใครได้ เด็กเรียบร้อยที่เชื่อฟังทุกอย่างนำใครไม่ได้ แล้วนำมาเสริมแนวทางที่ถูกต้องและมีการควบคุม
"แต่ไม่ใช่เจ็บต้องก้าวร้าวนะแบบ บอย โกสิยพงษ์ ก็เจ็บคือมีความคิดเป็นของตัวเอง ตรงนี้สำคัญ ส่วนเรื่องทักษะการร้องเราฝึกได้ แต่พลังขับดันผู้คนตรงนี้เขาต้องมีอยู่แล้ว"
ความรู้สึกสำหรับเขาก็คือ www.zheza.com นั้นเขาอยากให้มันเหมือนบ้านเพื่อน ที่สะอาดและมีคนดูแลในขณะเดียวกันก็ต้องมี คนมันๆ อยู่ในนั้นด้วยซึ่งก็เป็นกลุ่มศิลปินของเขา และก็มีพี่เลี้ยงเฮ้วๆ เป็นเว็บมาสเตอร์ที่ชื่ออูซี่ คอยดูแลและว่ากล่าวตักเตือนเด็กทุกเรื่อง
สำหรับเขาถ้าสร้างตรงนี้ ก็หมายความว่าอาจจะทำให้เด็กๆ ทำอะไรดีๆ ได้ด้วย
"เราคงไม่ต้องการให้ทุกคนเป็นคนดีหมด เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ว่าไม่เป็นคนเลวแล้วก็ต้องทำอะไรดีๆ ได้ด้วย"
เพราะผมก็อยากให้ลูกผมเป็นแบบนี้เหมือนกัน