ซึ่ง "พักไมค์" ไม่พลาดที่จะถือโอกาสนี้ ชวนสาวดูโอคู่นี้มานั่งพูดคุยเปิดใจถึงการทำงาน รวมไปถึงกระแสข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง
เริ่มกันที่ผลงานตอนนี้ก่อน แต่ละคนมีผลงานอะไรกันอยู่บ้าง?
โฟร์ เผยว่า "ตอนนี้ก็มีผลงานอยู่ 2 อย่าง คือ อัลบั้มเพลงชุดใหม่ แล้วก็งานละครเรื่อง "แดดดี้ ดูโอ คุณพ่อจอมเฟี้ยว" ที่กำลังออกอากาศอยู่ตอนนี้ค่ะ"
ส่วน มด เล่าว่า "มีอัลบั้มเพลง ที่ถือเป็นผลงานหลักตอนนี้ค่ะ งานอื่น ๆ ก็มีนิดหน่อย เช่น งานพิธีกรรับเชิญในรายการของอาร์เอสฯ ที่เพิ่งถ่ายไปล่าสุด รายการ "กามิกาเซ่ คลับ" ค่ะ"
แบ่งเวลากันอย่างไร เห็นงานเยอะทั้งคู่เลย แล้วยังไปเรียนรึเปล่า?
โฟร์ "สำหรับคิวละครจะล็อกวันเอาไว้แล้ว ในหนึ่งอาทิตย์ถ่ายวันไหนบ้าง วันไหนไม่มีถ่ายโฟร์ก็จะรับงานเพลงได้ค่ะ ซึ่งในคิวของละครจะไม่ได้ล็อกไว้ทั้ง 7 วันหรอกนะ จะมีประมาณ 3 วันเท่านั้น เพื่อที่วันอื่น ๆ โฟร์จะได้รับงานส่วนอื่นๆ ได้ และก็มีเวลาไปเรียนหนังสือด้วย ตอนนี้เรียนที่มหาวิทยาลัยรังสิต คณะนิเทศศาสตร์ ค่ะ"
มด "ก็จะคล้ายๆ พี่โฟร์ค่ะ แต่ช่วงนี้มดก็จะไม่ทำงานหนักมากเท่าพี่โฟร์ เพราะมีแค่งานเพลงอย่างเดียว (ยิ้ม) ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ที่ต้องถ่ายหนัง มดก็จะทำงานหนักมากๆ ซึ่งถ้างานเยอะเหมือนช่วงก่อนนี้ มดคงจะเหนื่อยมากแน่ๆ เพราะว่าช่วงที่ผ่านมามดจะต้องเตรียมตัวสอบ เข้ามหาวิทยาลัยด้วยค่ะ ซึ่งก็ได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยเอแบค คณะนิเทศศาสตร์"
นอกจากกระแสอัลบั้มที่แรงแล้ว เรื่องข่าวต่างๆ ก็แรงไม่น้อยเลย?
มด แจงว่า "ความจริงเรื่องข่าวต่างๆ ที่ได้เจอมา บอกตามตรงว่ามดเองก็รู้สึกเสียใจมากนะ ไม่อยากจะให้เกิดขึ้นอีกแล้ว เพราะมดแคร์ครอบครัวมากๆ โดยเฉพาะคุณพ่อและคุณแม่ ซึ่งข่าวที่เจอมันค่อนข้างแรง โชคดีที่ครอบครัวเข้าใจ ให้กำลังใจ และยังคอยอยู่เคียงข้างมด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นอกจากนี้พี่ๆ ที่อาร์เอสฯ รวมทั้งพี่โฟร์ก็อยู่กับมดในทุกครั้งที่เจอปัญหาค่ะ ซึ่งมดรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ที่มีทุก ๆ คนอยู่กับเรา ทำให้มดมีกำลังใจ สามารถผ่านเรื่องต่างๆ มาจนถึงวันนี้ได้ค่ะ"
โฟร์ "สำหรับโฟร์ก็จะคอยเป็นกำลังใจให้น้องค่ะ คือ บางทีเราเห็นข่าว ได้ยินกระแสต่างๆ มา แต่เราไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับมดเลย เพราะโฟร์เองเข้าใจว่ามดกำลังรู้สึกยังไง แค่นั่งอยู่ข้างๆ ให้เขารู้ว่ายังมีเราอีกคนหนึ่งที่อยู่กับเขา เท่านั้นก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้กำลังใจได้มากที่สุดแล้ว (ยิ้ม) สำหรับเราสองคน มันเป็นเหมือนพี่น้องกันไปแล้วค่ะ"
เคยมีกระแสข่าวบอกว่าโฟร์ไม่ค่อยพอใจ ที่ถูกเอาชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย?
"อ๋อ! คือว่าเรื่องนั้น เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ใช่โฟร์รู้สึกไม่พอใจหรอกค่ะ แต่ว่ามันเป็นช่วงจังหวะที่มีคนพูดเยอะๆ เรื่องข่าวต่างๆ แล้วมีบางคน บางกลุ่มที่เขาไม่แน่ใจว่าคนๆ นั้น คือ โฟร์ หรือว่า มด ก็เลยพูดรวมๆ ไปว่าเป็น โฟร์-มด ก็เลยออกมาบอกว่าโฟร์คือคนนี้ อะไรอย่างนี้ ก็แค่นั้นเอง ไม่ได้ไม่พอใจอย่างที่เข้าใจกันหรอกค่ะ"
ที่บอกว่าสนิทสนมเหมือนพี่น้อง สนิทกันแค่ไหน?
โฟร์ "ถ้าจะให้บอกว่าสนิทกันแค่ไหน คงบอกได้คำเดียวว่าสนิทมาก แค่มองหน้ากันก็รู้แล้วว่าใครชอบหรือไม่ชอบอะไร เราทำงานด้วยกันมาจะ 5 ปี และใช้เวลาอยู่ด้วยกันแทบจะ 24 ชั่วโมง ไม่สนิทกันก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วค่ะ"
ด้าน มด ตอบทันควันว่า "จริงค่ะ เราสองคนเป็นเหมือนพี่น้องกันไปแล้ว มดเองดีใจนะที่ได้มาทำงานกับพี่โฟร์ เพราะมดเป็นลูกคนเดียว อยากมีพี่น้องมานานแล้ว การที่ได้เจอพี่โฟร์เป็นเรื่องที่มดดีใจมากๆ เหมือนมีคนมาเติมเต็มให้เราได้ (ยิ้ม) เพราะนอกจากเรื่องงานแล้ว เรื่องส่วนตัวมดกับพี่โฟร์คุยกันได้ อย่างที่บอกไปว่าทุกครั้งที่มดเจอเรื่องร้ายๆ หรือว่ามีปัญหาต่างๆ พี่โฟร์นี่แหละค่ะ ที่อยู่ข้างๆ และเข้าใจที่สุดว่ามดรู้สึกยังไง"
โฟร์ เสริมว่า "เราจะเข้าใจกันมากๆ ว่าตอนนี้กำลังรู้สึกอะไรยังไงอยู่ และเราสองคนจะค่อนข้างแคร์เรื่องความรู้สึกกันมากที่สุด บางคนเวลาที่เจอเราสองคนไปงานต่างๆ อาจจะเห็นว่าไม่เห็นเราคุยกันเลย สนิทกันจริงหรือเปล่า? ขอบอกเลยค่ะว่าคนเราที่สนิทกันมากๆ นั้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องคุยกันตลอดเวลาหรอก เพราะเรารู้สึกถึงกันได้โดยไม่ต้องพูด"
แสดงว่าข่าวเกาเหลาก็ไม่จริงน่ะสิ?
"จะเกาเหลากันได้ยังไงคะ เราสนิทกันมากขนาดนี้ แถมมีนิสัยที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือถ้าเกิดไม่ชอบ หรือไม่พอใจอะไรแล้ว เราจะมีขีดความอดทนที่จำกัด แล้วลองคิดดูสิคะ ว่าถ้าเกิดเราสองคนเกาเหลากันไม่ถูกกัน เราจะทนทำงานด้วยกันมานานขนาดนี้ได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ" มดกล่าว
อนาคตในวงการนี้คิดว่าจะทำอะไรยังไงกันบ้าง?
โฟร์ "ก็ถ้าเกิดว่าแฟนๆ ยังคงให้ความสนใจ และตอบรับเราทั้งคู่ดีอยู่อย่างนี้ เราคงทำงานเพลงต่อไปเรื่อยๆ ส่วนงานด้านอื่นนอกจากงานเพลง ก็น่าจะเป็นละครนี่แหละค่ะ"
มด "ใช่ค่ะ มดคงเหมือนกับพี่โฟร์ แต่ว่างานในวงการที่มดคิดไว้ว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากลองทำดูบ้าง คือ งานเดินแบบค่ะ มดรู้สึกว่าน่าสนใจดี กับการที่เราจะพรีเซ็นต์เสื้อผ้าแต่ละชุดให้ออกมา แล้วสื่อถึงคนดูได้ มันท้าทายดีค่ะ"
แล้วอย่างนี้แฟนๆ ยังจะเอ็นดูสาวๆ คู่นี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน? ในเมื่อทั้งคู่ตั้งใจทำงานมากขนาดนี้!