มาเล่นหนังเรื่อง ดรีมทีม ได้ยังไง
ตอนแรกเลยคือมีคนบอกให้ไปคุยกับผู้กำกับ พี่เรียว หน่อยว่าเขาจะให้เล่นหนังเรื่อง "ดรีมทีม" พอเข้าไปคุยเขาก็บอกว่าพล็อตเรื่องประมาณนี้ ต้องเล่นเป็นครูโรงเรียนอนุบาลไหวมั๊ย เราก็เป็นครูเลยเหรอ ถ้าจะไม่ไหว พี่เขาก็เลยถามว่าเอาอย่างนี้ดีกว่าว่า "ในความเข้าใจของโฟร์ครูเป็นยังไง" ก็บอกไปว่าโหดๆ หน่อย ดุนิดนึง แต่ถ้าเป็นโฟร์ก็จะอารมณ์เป็นพี่ดูแลน้องมากกว่าคงไม่ดุมาก เขาก็บอกว่าเอ่อ ก็เล่นเป็นพี่เลี้ยงเด็กไม่ได้เป็นครูถือไม้เรียวขนาดนั้น ก็ถามว่าไหวมั๊ย ก็เลยบอกไปว่าถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นก็พอได้ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าโฟร์ไม่เคยมีน้อง ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงเด็กหรือวิธีการที่จะเอาเด็กให้อยู่ต้องทำยังไงให้เด็กเชื่อฟัง พี่เขาก็เลยให้ไปเวิร์กชอฟอยู่กับเด็กอนุบาล 20 ชั่วโมง
บทบาทที่ได้รับเป็นยังไงบ้าง
ตอนแรกเลยที่เขาวางคาแรคเตอร์ไว้ต้องเป็นครูที่จริงจังมุ่งมั่นมากๆ แล้วหลังๆ เขาก็บอกว่าคาแรคเตอร์ของ "หนูเล็ก" มันยังไม่ชัดเราเล่นไม่ได้ เขาก็เลยเปลี่ยนใหม่หมดเลย จะออกเป็นห้าวๆ นิดนึง ต้องใส่วิกผมสั้น สุดท้ายมันก็ชัดเจนขึ้น ก็ออกจะเป็นผู้หญิงที่มีความมุ่งมั่น ห้าว และปีนเกลียวนิดๆ
ต้องมาทำงานกับเด็กมีการเตรียมตัวรับมือยังไง
ตอนแรกก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไร เพราะตอนที่ไปเวิร์กชอฟเด็กๆ น่ารักดี จะมีบางคนที่ออกแนวกวนๆ ก็คิดว่าคงไม่อะไรมาก ทีมงานกับผู้กำกับคงจะจัดการให้ พอเอาเข้าจริงๆ พี่เขาบอกให้โฟร์ดูด้วยแล้วกัน ไอ้เราก็แบบอ้าวยังจำชื่อไม่ได้เลย แล้วให้พูดยังไง พี่เขาก็ให้เราทำความคุ้นเคยกับเด็ก ให้เขาคิดว่าเราเป็นครูจริงๆ จะได้ฟังเรา เพราะเด็กตอนแรกไม่รู้ว่าถ่ายหนังหรอก
แล้วอย่างนี้มีเจอปัญหากับเด็กๆ บ้างมั้ย
ก็ไม่ค่อยมี เพราะเด็กส่วนหนึ่งเชื่อว่าเราเป็นครูด้วย แต่พอเล่นไปเล่นมาก็เริ่มไม่เชื่อ เขาคิดว่าเราเป็นพี่โฟร์ หลังๆ ก็มาเรียกครูโฟร์ เราก็พยายามบอกเขาว่าไม่ใช่ ชื่อครูหนูเล็ก เด็กๆ ก็ยังเรียกครูโฟร์อยู่ ที่ร้องเพลงเด็กมีปัญหาใช่มั๊ย เพราะก่อนมาเล่นเรื่องนี้ ทางผู้ปกครองของเด็กๆ ก็บอกว่านี่พี่โฟร์-มด หลังๆ ก็มาร้องครูโฟร์ เด็กมีปัญหา บางคนก็มาเต้นท่าเราให้ดูเลย เราก็ตายแล้วเด็กคงไม่เชื่อแล้ว
ร่วมงานกับพี่เรียวผู้กำกับเป็นยังไงบ้าง
พี่เรียวเขามีมุมมองที่แตกต่างจากผู้กำกับคนอื่นนะ เท่าที่โฟร์เคยเห็น อย่างบางมุขเราคิดว่าเล่นอย่างนี้มันจะดีเหรอ แต่เขาบอกว่าเล่นไปเหอะเชื่อ ขำแน่ เราก็เลยคิดว่ามุขคนอายุเท่านั้นเหรอก็งง เขาก็บอกว่าเฮ้ยเล่นอย่างนี้ แบบนี้ เราก็คิดว่ามันไม่ใช่ แต่เขาให้เล่นเราก็เล่นเพราะเป็นผู้กำกับ
งานเยอะขนาดนี้มีเวลาพักผ่อนบ้างมั้ย
คือช่วงนั้นเหนื่อยมากเลยเพราะทั้งถ่ายหนังและร้องเพลง อย่างกลางวันถ่ายหนัง กลางคืนไปร้องเพลง ก็ถือว่าเหนื่อยมาก ตอนนี้หนังก็ถ่ายเสร็จแล้ว ใช้เวลาในการถ่ายทำเร็วมาก แค่เดือนครึ่งเอง ซึ่งตอนแรกคิดว่าคงใช้เวลานานเพราะว่าถ่ายกับเด็ก แต่ปรากฏว่ามันเร็ว เราก็เลยบอกเฮ่อดีจัง แล้วตอนนี้ก็ลุยงานเพลงอย่างเดียว แต่ถ้ามีเวลาก็พยายามหลับตลอด
พอมาเล่นหนังเรื่องนี้ได้ให้อะไรกับเราบ้าง
ทำให้เราแสดงออกมาเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ถามว่าเราเก่ง 100% หรือยังที่มาเล่นหนังเรื่องนี้ ก็ยังไม่ 100% ทำให้มีความอดทนมากขึ้นเพราะว่า ต้องถ่ายกล้องเดียวอ่ะ ไม่เหมือนละคร เราต้องเล่นซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั้นแหละ บางฉากต้องถ่าย 30 เทก เราก็แบบพักเหอะให้เล่นอีกคงไม่ไหว ก็เลยรู้สึกว่าเรามีความอดทนมากขึ้นคิดว่าเราก็ไม่ได้เหนื่อยคนเดียว คนอื่นเขาก็เหนื่อยเหมือนกัน มันก็ทำให้เรามีความอดทน
ฝากผลงานหนังเรื่องแรกกับเพื่อนๆ หน่อย
หนังเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นหนังที่น่าดูอีกเรื่องหนึ่ง เป็นหนังสะอาดเด็กๆ น่ารัก และก็คิดว่าเหมาะกับช่วงปิดเทอมด้วย ที่สำคัญคือเป็นหนังเรื่องแรกของโฟร์ด้วย ยังไงก็อย่าลืมไปให้กำลังใจกันด้วยนะคะ...
ใครที่เป็นแฟนเพลงของสาวโฟร์ละก็ อย่าลืมไปเป็นกำลังใจให้เธอกับการแสดงหนังครั้งแรกบนแผ่นฟิล์ม สาวโฟร์ยังฝากบอกแฟนๆ ของเขาอีกหนังเรื่องนี้เธอตั้งใจเต็มที่ ก็อยากให้ทุกคนมาให้กำลังใจเธอเยอะๆ และที่สำคัญก็ อยากใหคนไทยทุกคนช่วยกันอุดหนุนหนังไทย เพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนทำหนังด้วย