"โฟร์-มด" นักร้องวัยทีน... ร้อง เต้น เล่น เรียน
14 มิถุนายน 2549 เปิดอ่าน 19,179 ครั้ง


"หายใจเข้าก็เฮ้อ...เธอ หายใจออกก็เฮ้อ...เธอ" ประโยคฮิตเมื่อปีที่แล้วของสองสาวดูโอ "โฟร์-มด" มาปีนี้ทั้งคู่ออกอัลบั้มใหม่ Love Love เรียกว่าสยบอาถรรพณ์หมายเลข 2 อย่างราบคาบ...ซึ่งตอนนี้กระแสความรักที่สองสาวส่งไปนั้นกำลังแรงเลยทีเดียว โรคหัวใจกำเริบไปหลายรายแล้ว

"โฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไร" VS "มด-ชุติมณฑน์ ชัยรัตน์" แจ้งเกิดในฐานะนักร้องดูโอ ค่ายไอดี เรคคอร์ดส์ ในเครือของอาร์เอส... ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว นับว่าเป็นปีทองของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นงานเพลง ถ่ายแบบ และทัวร์คอนเสิร์ต วิ่งเข้าชนจนทั้งคู่ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะดังได้ขนาดนี้...

วันเวลาผ่านไปสู่อัลบั้มที่สอง "Love Love" ที่เหมือนจะเป็นธรรมเนียมไปแล้วกับประโยคฮิตติดปาก ซึ่งชุดนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก Love Love แถมด้วยท่าเต้นคิกขุ... ซึ่งทั้งโฟร์ และมด ต่างพากันเป็นปลื้มที่หลายคนยังให้การต้อนรับเหมือนเดิม

"จากอัลบั้มที่แล้วมาถึงอัลบั้ม Love Love ดีใจค่ะ ที่ทุกคนชอบ ฟีดแบ็กตอบกลับมาดีมาก ตอนแรกเราสองคนยังงงอยู่เลย มีคนพูดว่าระวังอาถรรพณ์ชุดที่ 2 นะ แต่พอเดินผ่านไปไหนมาไหน เพื่อนๆ จะพูด Love Love ตลอด ตอนนี้โล่งอกแล้วค่ะ"

"สำหรับโฟร์ช่วงที่อัลบั้มออกมานั้นยังติดถ่ายละครที่เนปาลอยู่เลย น้องมด โทร.มาบอกว่าเพลงของเราขึ้นอันดับ 1 ที่ชาร์ต Seed นะ ตื่นเต้นมาก อยากกลับเมืองไทยเร็วๆ เลย พอกลับมาถึงปุ๊บหายเหนื่อยเลยค่ะ ฟีดแบ็กที่เพื่อนๆ ให้การต้อนรับดีมากๆ"

อัลบั้ม Love Love แนวเพลงแตกต่างจากอัลบั้มที่แล้วอย่างไร น้องมดบอกว่าชุดนี้คอนเซ็ปต์จะโตขึ้นเล็กน้อย ด้วยชุดเสื้อผ้าที่ออกแนวเซ็กซี่เล็กๆ

"ชุดนี้จะเห็นว่ามดโตขึ้นจากเด็กเริ่มขยับเข้าสู่วัยรุ่น ส่วนพี่โฟร์เขาจะเปรี้ยวมากขึ้นเล็กน้อย แนวเพลงเป็นป๊อปใสๆ สนุกสนานเหมือนเดิม อัลบั้มนี้ที่ต้องทำการบ้านหนักกันทั้งคู่คือ เรื่องของการร้องเพลงและการเต้น ต้องเข้ามาซ้อมเต้นทุกวัน อย่างมดหลังเลิกเรียนจะต้องเข้ามาซ้อมร้องเพลงและเต้นทุกวัน ส่วนพี่โฟร์ ถ้าเขาเสร็จจากการถ่ายละครจะเข้ามาเจอกันทุกครั้งค่ะ"

กระแสดังแรงดีไม่มีตกแบบนี้แฟนคลับต่างเรียกร้องให้โฟร์-มด จัดคอนเสิร์ตใหญ่เป็นของตัวเองสักครั้งหนึ่ง งานนี้มีแววว่าสาวกสองสาวน่าจะมีเฮอย่างแน่นอน โฟร์การันตีคุณภาพด้วยตัวเองเลย

"เรื่องคอนเสิร์ตใหญ่ที่จะมีเป็นของโฟร์ และมดเองนั้น เคยคุยกับทางค่ายเหมือนกันค่ะว่าน่าจะจัดดีไหม แต่ตอนนี้ด้วยเวลาและด้วยคิว ยังไม่พร้อมกันทั้งคู่เลยค่ะ คิดว่าน่าจะอีกสักระยะหนึ่ง เรื่องความคาดหวังไม่เคยคาดว่าจะต้องดังทะลุเป้า แค่ว่าเพื่อนๆ ชอบ เต้นเพลงเราได้ ร้องเพลงเราได้ก็ยินดีแล้วค่ะ"

ทั้งเรียนควบคู่กับการเป็นนักร้องไปด้วย ชีวิตช่วงวัยเรียนของเธอจะมีปัญหาหรือเปล่า แล้วทั้งคู่แบ่งเวลาเรียนอย่างไร มาดูกันเลย... ปัจจุบันน้องโฟร์กำลังศึกษาอยู่นิเทศศาสตร์ เพิ่งจะขึ้นปี 2 มาหมาดๆ รั้ว ม.รังสิต

"เทอมที่แล้วตอนอยู่ปี 1 โฟร์มีเรียนทั้งหมด 3 วัน คือจันทร์ พุธ ศุกร์ บางทีจะมีงานเช้ามาเบียดเวลาเรียนไปบ้าง โฟร์จะมีวิธีแก้ปัญหาโดยเข้าไปคุยกับคณบดีเลยค่ะ ว่าเราไม่ค่อยมีเวลาเรียนเท่าไหร่ เป็นเชิงปรึกษามากกว่าว่าเราควรทำอย่างไรดี อาจารย์ท่านเข้าใจค่ะ และให้คำปรึกษาดีมาก ทุกอย่างมีทางแก้ไขได้ แต่เราต้องตามงานกับเพื่อนเองด้วย"

กับงานอัลบั้มใหม่ พ่วงด้วยการทัวร์คอนเสิร์ต โฟร์วางแผนเตรียมรับมือไว้อย่างดี

"ทุกครั้งที่โฟร์ไม่ได้เข้าห้องเรียนไปเลกเชอร์จะพยายามโทร.หาเพื่อนบ่อยๆ ถามว่ามีงานอะไรบ้างที่อาจารย์สั่ง และต้องส่งวันไหน และโฟร์ จะต้องทำอะไรบ้าง เพื่อนจะบอกตลอดค่ะ ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ด้วย ที่น่ารักเสมอ"

เพราะไม่ค่อยมีเวลาเหมือนเพื่อนๆ ในวัยเดียวกันนี่เอง ส่วนหนึ่งได้กลายมาเป็นแรงผลักดันให้สาวโฟร์ มีแรงฮึดเป็นสองเท่า และไม่คิดที่จะดร็อปเรียนด้วย

"เพราะเรารู้ตัวเองว่าเราไม่มีเวลาเหมือนเพื่อนๆ ฉะนั้นถ้าเราปล่อยเลยตามเลย มันจะเรียนไม่รู้เรื่อง ด้วยความกลัวว่าเราจะเรียนไม่รู้เรื่องนั่นแหละ เลยทำให้เรามีความมุมานะ ขยันอ่านหนังสือมากเป็นพิเศษค่ะ ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองมีความรับผิดชอบมากขึ้นจริงๆ ค่ะ แต่ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเป็นคนขี้ลืมด้วย (หัวเราะ) ยิ่งถ้าเราเป็นคนทำอะไรเยอะๆ จะยิ่งลืมไปกันใหญ่เลย ถ้าจะให้บอกว่ามีความรับผิดชอบทางด้านไหน คงจะเป็นเรื่องของเวลาและการทำงานมากกว่าค่ะ เพราะเราต้องทำงานกับคนอื่นอีกเยอะ เรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับงานในวงการบันเทิง เพราะถ้าเราสาย มันหมายถึงเขาเสียผลประโยชน์นะ"

ด้านน้องมดดูเหมือนจะเจอศึกหนักมากกว่าหนูโฟร์ เนื่องจากยังอยู่ในชุดนักเรียนมัธยมปลายอยู่เลย ฉะนั้นเรื่องของเวลาในการเรียน ดูเหมือนจะตายตัวมากกว่า งานนี้น้องมด เธอจะหาทางออกให้กับตัวเองแบบไหน...มด จากเด็กมัธยมต้นเมื่อปีที่แล้ว เทศกาลเปิดเทอมเพิ่งจะผ่านมาได้ไม่กี่วัน น้องมดโตเป็นสาวขึ้นอีก 1 ปี ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นม. 1 โรงเรียนโยธินบูรณะ เธอเลือกเรียนแผนศิลป์-ภาษาจีน

"ตอนนี้โรงเรียนเปิดเทอมแล้วค่ะ ขึ้นม. 4 ต้องเลือกแผนการเรียนด้วย มดเลือกเรียนภาษาจีนค่ะ ขอบอกว่ายากมาก (หัวเราะ) ยากสุดๆ เรียนวันแรกอาจารย์จะตั้งชื่อภาษาจีนให้แต่ละคนก่อนเลย ของมดมีชื่อจีนเหมือนกันนะคือเฉิน เหม่ย หุ้ย แปลว่า เป็นคนที่สวยและดีพร้อม (หัวเราะ) การเรียนของมดจะต่างกับพี่โฟร์เลย เพราะต้องเข้าเรียนทุกวัน เรียนเป็นเวลา เลือกเรียนภาษาจีนด้วย ซึ่งมันยากมาก ไม่อยากขาดเรียน มดจะขอพี่ๆ เขาไว้เลยค่ะ"

"การเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ก็มีผลกระทบเรื่องการเรียนบ้าง แต่มดเรียนพิเศษวันเสาร์กับวันอาทิตย์ นอกจากนี้ยังให้อาจารย์ช่วยติวให้ด้วย ที่มดพยายามทำวิธีนี้เพราะว่าการเอ็นทรานซ์ระบบใหม่ (แอดมิชชั่น) เขาดูเกรดในห้องเรียน มากกว่าการสอบ เลยต้องปรึกษากับอาจารย์ว่าเราเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยแบบนี้ เวลาอาจจะไม่เหมือนเพื่อนๆ เขา เลยต้องอาศัยเรียนพิเศษเพิ่มเติมด้วย อยากสอบติดมหาวิทยาลัย ที่เราอยากเรียนค่ะ"

"บางคนอาจจะมองว่า โอ๊ย!! ทำไมมดซีเรียสเรื่องเอ็นทรานซ์จัง ซีเรียสนะคะ เพราะเราจะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว อยากทำให้ดีที่สุด มดเห็นพี่ๆ มดสอบติดกันทุกคน เราอยากทำแบบนั้นบ้าง เพราะทุกอย่างคือชีวิตเรา คุณแม่จะคอยให้กำลังใจและเป็นที่ปรึกษา คุณแม่ไม่เคยบังคับว่าอยากให้เรียนแบบนั้นแบบนี้ ทุกอย่างจะให้มดตัดสินใจเองค่ะ มดตั้งใจจะสอบเข้าจุฬาฯ ให้ได้ค่ะ อยากเรียนคณะอักษรศาสตร์ เพราะเป็นคนชอบในเรื่องของภาษาอยู่แล้ว จะได้เรียนเกี่ยวกับภาษาโดยตรงเลย"

สองสาวเปิดใจพูดถึงชีวิตนักเรียน-นักศึกษา กันไปแล้ว คราวนี้มาติดตามไลฟ์สไตล์ของทั้งคู่ดีกว่า... เพราะเป็นคนดังยังไงก็หนีไม่พ้นเรื่องข่าว มีคนปากไวแอบเมาท์ว่าทั้งโฟร์และมดแตกคอกัน ที่เห็นว่าสนิทกันนั้นล้วนแล้วแต่สร้างภาพทั้งสิ้น

โฟร์ แจงข่าวนี้ให้รู้ว่า "ไม่รู้เหมือนกันว่าข่าวแบบนี้ออกมาจากไหน ความจริงเป็นอย่างไรเราจะรู้กันเองแหละ ผู้ใหญ่ในบริษัทจะทราบ คุณพ่อคุณแม่ของเราจะรู้ดี อ่านข่าวนี้แล้วขำๆ มากกว่า ทุกอย่างเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้สนิทกัน เพียงแต่เราไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันเท่านั้น บางเรื่องโฟร์กับมดคุยกันไม่รู้เรื่อง ด้วยอายุที่แตกต่างกันถึง 5 ปี มดรู้เรื่องเกี่ยวกับการเรียน ซึ่งโฟร์ไม่รู้เรื่องเลย (หัวเราะ)"

"มด" เสริมความหนักแน่นเข้าไปว่า "บางครั้งคนอาจจะเห็นเราลงจากเวที ทำไมถึงไม่คุยกัน ต่างคนต่างนั่งคนละมุม จะบอกว่าเหนื่อยมากนะคะ การเล่นคอนเสิร์ตแต่ละครั้ง ไม่รู้จะคุยอะไรแล้ว ณ นาทีนั้น (หัวเราะ)"

ไขข้อกังขาที่หลายคนข้องใจกันไปแล้ว ไม่มีอะไรในก่อไผ่อย่างที่ขาเมาท์เขาพูดกัน นี่เป็นเพียงข่าวค(ร)าว ที่ทั้งสองเจอเพียงเศษเสี้ยว หนักกว่านี้ทั้งโฟร์ และมด เจอมาหมดแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทั้งคู่บอกเหมือนกันคือ ไม่ว่าจะมีข่าวอะไรเกิดขึ้น กำลังใจสำคัญที่สุดคือครอบครัว คุณพ่อคุณแม่เข้าใจ แค่นี้ก็ไม่กลัวอะไรแล้ว

"คุณแม่โฟร์จะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน เพราะโฟร์จะเป็นคนประเภทที่เหนื่อยมากๆ แล้วจะทานไม่ค่อยลง เป็นอย่างนี้เรื่อยๆ โฟร์ มีโรคประจำตัวคือกระเพาะอาหารด้วย ส่วนเรื่องเรียนคุณพ่อคุณแม่ท่านเป็นห่วงเหมือนกัน แต่ท่านจะเข้าใจว่าเราต้องทำงานด้วย เรื่องข่าวต่างๆ ท่านจะคอยให้กำลังใจอยู่ข้างหลังค่ะ"

เช่นเดียวกับน้องมดที่ไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหน จะมีเงาคุณแม่ตามประกบตลอด

"คุณแม่จะคอยเตือนอยู่ตลอดเวลาค่ะ ในเรื่องของการเรียน ว่าเราอย่าประมาทนะ อาจารย์สั่งให้ส่งงาน อย่าลืมส่งนะ และที่สำคัญอย่าลืมอ่านหนังสือด้วย เพราะเวลาเรียนของเราไม่เหมือนเพื่อนๆ เขา ทางที่ดีเราควรจะอ่านหนังสือทุกวัน"

ได้รับรู้เรื่องราวของสองสาวกันไปแล้ว ทั้งเรื่องงานเรื่องเรียน และเรื่องข่าวคราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น... กับอาถรรพณ์หมายเลข 2 ที่นักร้องหลายคนต่างเข็ดขยาดกันเป็นแถว ยังต้องสยบให้กับความแรงของทั้งคู่ เรียกว่าเป็นความลงตัวที่เหมาะเจาะ เพราะช่วงรอยต่อระหว่างอัลบั้มแรกกับอัลบั้มที่สองทิ้งระยะไม่ถึงปี ความถี่จึงไม่มีตก... ถามว่า ณ วินาทีนี้คู่ดูโอไหนฮอตที่สุด คำตอบที่ได้คงหนีไม่ไกลจาก "โฟร์-มด" นั่นเอง"


การศึกษาวันนี้

นิตยสาร

Four Mod stick together Student Weekly
Friendship Never Ends โฟร์-มด, เนย-แจม COSMOPOLITAN
starperiod : Four Lovable Star SPICY
"โฟร์" ปลื้ม "เปล่า...เจ้าชู้" ติดหูคนฟัง SPICY
เม้าท์กระจายยย...อะไรคือที่สุดของ "โฟร์ ศกลรัตน์" Candy
คนพิเศษของโฟร์ ศกลรัตน์ วรอุไร ขวัญเรือน
Four's Bag! Oops!
in style a day Four-Sakolrat in Magazine
จุ๊ๆ Four-Mod มีความลับมาบอกล่ะ ^^ Sweety
โฟร์-มด สวยปิ๊ง บอกความนัย "จีบได้แฟนไม่รัก" Love Love
ดูทั้งหมด




Blackcatify
Yes it shirt
Red Army Fanclub