โฟร์เป็นลูกสาวคนเล็กของบ้าน ครอบครัวของโฟร์เป็นครอบครัวที่ค่อนข้างจะเคร่งครัด แต่ก็อบอุ่นมากๆ เพราะตั้งแต่เล็กจนโตพ่อกับแม่จะไม่ปล่อยให้โฟร์อยู่ห่างสายตาเลย ท่านจะรับส่งที่โรงเรียนตลอด ตอนอนุบาลแม่ไปส่งก็จะนั่งเฝ้าจนเรียนเสร็จแล้วก็รับกลับ แล้วพี่น้อง 4 คน อยู่โรงเรียนเดียวกันหมด ก็จะไปพร้อมกันกลับพร้อมกัน
โฟร์มีพี่น้อง 4 คน โฟร์เป็นลูกคนที่ 4 คนสุดท้องเลย พี่คนโตเป็นพี่สาว คนรองเป็นพี่ชาย และคนที่สามเป็นพี่สาว แต่ถึงจะเป็นลูกคนสุดท้องก็ไม่ได้มีใครมาตามใจแต่ประการใดเลย แถมโฟร์ยังรู้สึกว่าที่บ้านจะเคร่งครัดกับโฟร์มากที่สุดซะด้วยซ้ำ อย่างตอนอยู่ ม.3 จะขอไปต่างจังหวัดกับเพื่อน แม่ก็ห้ามไปเพราะมันอันตราย แต่โฟร์จะรู้สึกว่ากับพี่คนที่ 3 ที่อายุห่างกับโฟร์ปีเดียว แต่เค้าสามารถไปไหนมาไหนกับเพื่อนได้ตั้งแต่ ป.5 แม่ก็จะบอกว่ามันต่างกัน พี่เค้าดูแลตัวเองได้ เค้าโตกว่า ส่วนโฟร์ยังเด็กอยู่ โฟร์ก็บอกว่าโตกว่าแค่ปีเดียวเนี่ยนะ ตอนนั้นก็น้อยใจ แต่ก็จะคุยกับแม่นั่นแหละว่าโฟร์ก็อยากไปนั่นไปนี่กับเพื่อนบ้าง แต่แม่ก็มีเหตุผลเหมือนเดิมว่ามันอันตราย ถ้าเป็นอะไรไปมันไม่คุ้ม ปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นอยู่ แต่โฟร์เริ่มทำใจและเข้าใจได้แล้วว่าแม่ก็คงเป็นห่วงจริงๆ
โดยนิสัยส่วนตัวแล้วโฟร์จะเป็นคนตรงๆ อยากพูดอยากรู้อะไรก็ถามเลย แต่คนจะติดภาพว่าโฟร์คิกขุ ใสๆ ซึ่งจริงๆ ก็เป็นนั่นแหละ (หัวเราะ) เพราะโฟร์เป็นคนที่สนุกสนานมากๆ เวลาทำงานเค้าให้วิ่ง ให้หัวเราะ ทำหน้าทำตา เราก็จะเต็มที่กับตรงนี้ คนเลยคิดว่าโฟร์คิกขุ ทุกอย่างที่คนได้เห็นนั่นเป็นตัวโฟร์ทั้งหมด ไม่ได้เฟคขึ้นมาเลย พื้นฐานเป็นคนร่าเริงอยู่แล้ว โฟร์เข้าวงการมาได้ก็เพราะมีพี่โมเดลลิ่งเค้าให้นามบัตรมา คือโฟร์เดินอยู่หน้าโรงเรียน ตอนนั้นรอคุณแม่อยู่กำลังจะกลับบ้าน และยืนรอกับเพื่อนๆ อยู่ แล้วมีพี่คนหนึ่งเดินเข้ามา ตอนแรกนึกว่าพี่เขาจะเดินเข้ามาถามทางซะอีก พี่เขาก็แนะนำตัวว่าเป็นโมเดลลิ่ง ถามโฟร์ว่าสนใจอยากจะถ่ายโฆษณาหรือเปล่า และพี่เขาก็ทิ้งที่อยู่เอาไว้ให้ โฟร์ก็เลยให้แม่พาไป และได้เข้าไปแคสติ้งงานโฆษณาต่างๆ เกือบ 30 ชิ้น กว่าจะได้งานหนึ่งมันยากมากๆ
พอเข้าวงการก็มีอะไรเปลี่ยนบ้าง อย่างแต่ก่อนพอเลิกเรียนก็ไปเที่ยวห้าง ไปเที่ยวกับเพื่อน แต่เดี๋ยวนี้เวลาที่อยู่กับเพื่อนแทบไม่มี ถ้าเกิดว่างทีนึงเราก็เลือกไปกับที่บ้านอย่างเดียว พูดง่ายๆ เลยคือตอนนี้ไม่มีเพื่อนคบ แต่การที่โฟร์ก้าวเข้ามาอยู่ตรงนี้มันทำให้โฟร์ดูโตขึ้น ได้ออกมาอยู่ในสังคมกว้าง แต่ละคนที่เราเจอส่วนมากก็จะเป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น เวลาเราจะคุยกับเค้าทำให้เราเห็นได้ว่าเค้ามีความคิดความอ่านที่ดี เราอยากเป็นแบบนี้บ้าง ส่วนที่บ้านเนี่ยจะเห่อมาก เพราะช่วงที่เข้ามาลองทำงานใหม่ๆ ละคงละครตอนนั้นที่บ้านไม่ดูกันเลย เปิดหาแต่โฆษณาที่โฟร์เล่น ตอนนั้นตัวแรกที่โฟร์เล่นคือโฆษณาระบบมือถือ พอโฆษณามาคุณแม่จะตะโกนว่ามาแล้ว ทุกคนก็จะวิ่งมาดู แต่สำหรับเรื่องนิสัยเนี่ยก็ไม่มีเปลี่ยนอะไรมาก เพราะเราเป็นคนสบายๆ ไม่ได้เป็นเด็กที่ก้าวร้าว ดื้อ ไม่ฟังใคร หรือเอาแต่ใจตัวเอง
โฟร์เข้าวงการจริงๆ ตอนอายุ 17 ปี ตอนนั้นเพิ่งเริ่มถ่ายโฆษณาเอง แต่โฟร์รู้สึกว่าตัวเองเข้ามาในตอนที่อายุมากแล้วนะ เพราะถ้าเปรียบเทียบกับเด็กที่ถ่ายโฆษณาทั่วไปจะอายุ 12-13 ปีเอง แต่โฟร์อายุ 17 คิดว่าตัวเองเข้ามาสายไปด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าโชคดีที่ได้มาเล่นละคร ได้เล่นเอ็มวีเร็ว ต้องบอกว่าเร็วมาก ก็ดีใจและแปลกใจ โดยเฉพาะเด็กๆ กลุ่มวัยรุ่นจะพูดถึงเรามาก แต่ชีวิตโฟร์ตอนนั้นก็ยังไม่เปลี่ยน ยังเดินไปเที่ยวห้างปกติ ก็จะมีคนมองบ้างว่าเด็กคนนี้มันน่ารักดี แต่พอถ่ายโฆษณาแล้วคนจะเริ่มมองว่าเด็กคนนี้หน้าคุ้นมากเหมือนที่เล่นโฆษณาเลย
ทำงานในวงการมาได้สักระยะ ชีวิตก็มีจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากคือ โฟร์มีโอกาสได้เล่นเอ็มวีของวงไอน้ำ ซึ่งก็เลยทำให้ได้เข้ามาที่อาร์เอส ตอนแรกที่เข้ามาคิดว่าตัวเองคงได้เป็นนักแสดง แล้วมันก็หักเหมาเป็นนักร้องซะก่อน คราวนี้ 'พี่เจมส์' (เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์) เค้ารู้ว่าเด็กคนที่โฆษณา "วางก่อนดิๆๆ" เข้ามาอยู่ในบริษัทแล้ว เค้าอยากเจอ อยากคุย เลยได้เข้ามาคุยเรื่องงานเพลงกัน ซึ่งโฟร์ก็ชอบร้องเพลงอยู่แล้ว เพราะอยู่บ้านก็แหกปากร้องเพลงประจำ แต่ไม่ได้คิดว่าตัวเองร้องเพราะ เสียงดี มีรางวัลการันตีอะไร ก็ถือว่าโฟร์โชคดีมากที่ทั้งร้องเพลงได้ เล่นละครก็ได้ เป็นพิธีกรก็ได้ ทางผู้ใหญ่เห็นว่าน่าจะไปได้ดีก็เลยป้อนงานมาเรื่อยๆ
ทำงานในวงการนี้มา 4 ปีแล้ว จากที่โฟร์เคยคิดว่ามันเป็นงานที่ง่าย สบายๆ ได้เงินเยอะ แต่พอได้เข้ามาทำงานจริงๆ จังๆ มันก็ไม่สบายอย่างที่คิด เพราะว่าต้องตื่นเช้า กลับบ้านดึก แล้วยังต้องเรียนหนังสือไปด้วย ลำบากมาก แถมยังมีข่าวเยอะเหมือนกัน แต่โฟร์ไม่ซีเรียสเลยซักข่าว อย่างภาพหลุดที่อ้างว่าเป็นเราคนดูก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นภาพตัดต่อ อย่างเรื่องเกาเหลากับ 'น้องมด' ก็ถือเป็นสิ่งที่เราคุยกันไปแล้วว่าไม่มีอะไรจริงๆ ส่วนข่าวมือที่ 3 ของ 'พี่เอ๊ะ' กับ 'พี่เจมส์' มันก็ไม่เกี่ยวกับโฟร์อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าทำไมต้องเจาะจงว่าเป็นโฟร์ สงสัยอยากให้โฟร์ดังมั้ง โฟร์ไม่ซีเรียสกับข่าวที่เกิดขึ้นและไม่ท้อด้วย เพราะคนรอบข้างรู้ว่าเราเป็นยังไง แล้วโฟร์เชื่อว่าสิ่งที่โฟร์ทำออกไป คนภายนอกดูรู้ว่าเราเป็นยังไง
ตอนนี้โฟร์เรียนอยู่ ม.รังสิต คณะนิเทศศาสตร์ เอกประชาสัมพันธ์ ก็มีดรอปเรียนเป็นบางตัวเพราะมันต้องใช้เวลาเข้าไปเรียนในห้องเยอะ ซึ่งโฟร์จะไม่ค่อยมีเวลา แต่ว่าโฟร์คิดว่าโอกาสแบบนี้มีน้อยคนที่จะได้แบบโฟร์ โฟร์เลยอยากคว้าโอกาสตรงนี้ไว้ก่อน โฟร์คิดว่าไม่มีคำว่าสายสำหรับเรื่องเรียน โฟร์เห็นคนอายุ 30 ยังไปนั่งเรียนกันอยู่เลย และโฟร์เองก็ไม่ได้รีบว่าต้องเรียน 3-4 ปีจบ มันอยู่ที่ความสามารถของเราว่าเรียนได้แค่ไหน
โฟร์อยากขอบคุณบ้านหลังแรกที่คอยสนับสนุน เพราะถ้าไม่ได้แม่กับป๊าก็คงไม่มีวันนี้แน่ๆ และขอบคุณบ้านหลังที่สองอย่างอาร์เอส ที่ให้อะไรกับโฟร์เยอะมาก ขอบคุณที่สอนให้เด็กที่เคยงอแงเวลาอยู่กับแม่มีความอดทน และรู้จักมอบความรักให้คนอื่นด้วย
