เพราะไม่เพียงแต่หน้าตาที่สวยคมแฝงความซุกซน ซึ่งกำลังอินเทรนด์ตามกระแสดาราเกาหลี หากฝีไม้ลายมือยังเข้าตา ดูได้จากเรตติ้งของละคร "หิมะใต้พระจันทร์" ที่เพิ่งลาจอไปก็พอการันตีได้ นอกจากนี้เธอยังถูกจับตามองในความเซ็กซี่ น่ารัก ที่เริ่มฉายแววโดดเด่นขึ้นทุกวัน แล้วอย่างนี้ Demand หรือจะกล้าปล่อยให้เธอลอยนวล เราจึงบุกไปหาเธอถึง ณ บริษัท อาร์เอส จำกัด เพื่อนำตัวตนจริงของสาวน้อยวัย 20 ปีเต็มคนนี้มาถ่ายทอดสู่คุณ

learn 4 life
แม้จะเป็นเวลาเย็นย่ำแล้วเมื่อทีม Demand ไปถึง แต่โฟร์ก็ยังต้อนรับเราด้วยรอยยิ้มที่สดใสและมีท่วงท่ากระฉับกระเฉงเมื่อเล่าถึงตัวเองในวัยเด็กด้วยตาเป็นประกาย...
"ชีวิตโฟร์ค่อนข้างอบอุ่นมาตั้งแต่เด็กนะคะ ป๊ากับแม่มีอาชีพค้าขาย โฟร์มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน พี่สาวสองคน พี่ชายหนึ่งคน โฟร์เป็นคนสุดท้อง ชื่อก็เรียงกันมาเลย วัน ทู ทรี โฟร์ (ยิ้ม) จำได้ว่าตั้งแต่เด็กๆ ป๊ากับแม่จะต้องขับรถไปรับไปส่งที่โรงเรียนตลอดเวลา ไม่เคยเลยที่จะนั่งรถเมล์ คือป๊ากับแม่ตอนที่เขายังเด็กเนี่ย เคยลำบากมา พอมีลูก เขาก็เลยตั้งใจว่าจะไม่ให้ลูกลำบากเหมือนเขา พี่ๆ ของโฟร์ก็เหมือนกันนะคะ ไม่เคยลำบาก อยากกินอะไร ได้ อยากเล่นอะไรก็ได้หมด แล้วเรื่องรับส่งเนี่ยก็ยังทำอยู่จนถึงตอนนี้ ขนาดโตแล้วนะคะ (ยิ้ม)
แต่เรื่องการเรียนกับการใช้ชีวิตท่านจะปล่อยให้ลูกๆ ตัดสินใจเอง ใครชอบอะไรป๊ากับแม่ก็จะสนับสนุนให้ทำอย่างนั้นไป ก็มีแต่โฟร์เองเนี่ยแหละที่ไม่เคยรู้ตัวเลยว่าชอบอะไรกันแน่ เป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง เวลาเรียนสงสัยก็ไม่กล้าถามครู กีฬาก็ไม่เอาไหน กับข้าวกับปลา การฝีมือก็ไม่ได้เรื่อง (หัวเราะ) ตรงข้ามกับพี่ๆ เลย พวกพี่ๆ เขาจะรู้จักตัวเอง แล้วมีความมั่นใจ ดูแลตัวเองได้ วางแผนได้ว่าชอบอะไร จะเรียนอะไร ที่ไหน จะบินไปเมืองนอกไหม...
ในขณะที่โฟร์รู้อย่างเดียวว่าชอบศิลปะ พวกวาดเขียนภาพสี คือดูแล้วชอบน่ะค่ะ พอแม่รู้ก็ส่งไปเรียน แต่พอไปเรียน โฟร์กลับรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ ทำไม่ได้ พยายามนะคะ แต่ก็วาดไม่ได้สักที เพราะงานศิลปะมันต้องใช้จินตนาการ มีความพยายาม มีความอดทน แต่โฟร์เป็นคนใจร้อนมาก อยากทำอะไรก็ต้องให้เสร็จเดี๋ยวนั้น ถ้าต้องไปนั่งนึกจินตนาการแล้วร่างออกมามันไม่ทันใจ ขนาดลอกลายยังไม่มีสมาธิเลยค่ะ โฟร์นั่งทำอะไรนานๆ อยู่อย่างเดียวเป็นชั่วโมงๆ ไม่ได้ จะตาย (หัวเราะ) ก็เลยต้องเลิกเรียนไป แต่ก็ยังชอบอยู่นะคะ
จากนั้นก็ค้นหาตัวเองอยู่อีกนานเลยค่ะ หันมาลองเรียนดนตรีก็เคย มันเริ่มมาจากไปบ้านเพื่อนแล้วเห็นเพื่อนเล่นเปียโน ก็เอาเลย กลับมาบอกแม่ว่าอยากเรียน แม่ก็เอาซิลูก แต่ก็จบแบบเดิมอีก (ยิ้ม) เพราะเรียนดนตรีต้องเริ่มจากพื้นฐาน ต้องรู้โน้ต รู้ห้อง รู้จังหวะ แรกๆ ที่เรียนครูก็ให้นั่งตบมือ อ่านโน้ต แค่นั้นแหละโฟร์เบื่อมาก ก็ไม่เอาอีก ตอนนั้นโฟร์อายุ 15-16 แล้ว ไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ แม่พยายามช่วยแนะนำนะคะ ลองเปลี่ยนไปเรียนร้องเพลงไหมลูก เอ้า...เรียนก็เรียน จนครูเบื่อมาก เพราะโฟร์ไม่ตั้งใจเรียนไงคะ ที่สุดก็เลิกเรียนไปอีก คิดไม่ถึงเลยว่าในอนาคตจะต้องมาเป็นนักร้องจนได้..."

be 4 being popular
เมื่อถามว่าการได้ไปเรียนนั่นเรียนนี่ทำให้เธอเริ่มมองตัวเองออกบ้างไหมว่าเป็นคนอย่างไร โฟร์ยิ้มขำ แล้วพยักหน้าก่อนตอบว่า
"เป็นคนไฮเปอร์ค่ะ อยู่นิ่งไม่ได้ พูดมาก ไม่รู้สิโฟร์เป็นคนมีเรื่องคุยเรื่องเล่าเยอะ แล้วเป็นคนที่บิ้วท์คนอื่นขึ้น คือถ้าเล่าอะไรแล้วคนฟังจะสนุกเหมือนเห็นภาพตามไปด้วยน่าจะเอาดีด้านการแสดงได้ พอดีมีคนมาชวนเข้าสังกัดโมเดลลิ่ง ก็เลยตกลง แต่ก็แคสติ้งอยู่นานนะคะกว่าจะได้งานเรื่องหนึ่ง เพราะยังไม่มีความมั่นใจ จะยิ้มก็ไม่เต็มปาก เราใส่เหล็กดัดฟันกลัวไม่สวย แต่พอไปแคสหลายๆ งานเข้าก็เริ่มชิน เริ่มเก่ง เริ่มกล้าแสดงออก นั่นแหละค่ะถึงได้งาน แล้วโชคดีว่าพอได้งานแรกปุ๊บก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ ทีนี้ล่ะเริ่มสนุกแล้ว เพราะได้เงินเยอะไงคะ (หัวเราะ) ได้เป็นหมื่นๆ ตาโตมาก โฟร์มีความรู้สึกว่ามันน่าภูมิใจนะที่เราอายุน้อยมาก ตอนนั้นอยู่แค่ ม.5 เองนะคะ แต่หาเงินเองได้ก็เอามาให้แม่ เอามาซื้อของ อยากได้อะไรก็ซื้อ รูสึกดีที่เป็นน้ำพักน้ำแรงของเรา เป็นความสามารถของเรา ก็ยิ่งเกิดความตั้งใจที่จะแคสงานมากขึ้น จนได้มาถ่ายมิวสิกวีดีโอของวงไอน้ำ ซึ่งตรงนี้แหละเป็นจุดที่ทำให้บริษัทอาร์เอสมองเห็นโฟร์ แล้วเรียกให้เข้ามาคุย โฟร์ก็คิด โอกาสดีๆ อย่างนี้หาไม่ได้ง่ายๆ นะ ก็ตัดสินใจมาคุยดู
ในที่สุดก็เข้าสังกัด มาอยู่ที่นี่โฟร์ต้องเริ่มต้นใหม่หมดเลยนะคะ เรียนใหม่หมดเลย ตั้งแต่แอ็คติ้ง ร้องเพลง แล้วการมาเรียนครั้งใหม่นี่แหละทำให้โฟร์เริ่มคลิกกับการแสดง ชักรู้สึกว่าใช่และชอบมากๆ พอบริษัทเห็นว่าเราไปได้ก็เริ่มให้รับละคร แล้วระหว่างนั้นพี่เจมส์ (เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์) มาเห็นเข้า ก็มาชวนไปเทสต์เสียง โฟร์เทสต์อยู่สองครั้งนะคะ ครั้งแรกพี่เจมส์ต้องการหาแนวทางก่อนว่าน่าจะไปทางไหน ส่วนครั้งที่สองนี่ดูพัฒนาการของเสียงและการร้องว่าเป็นอย่างไร เพราะโฟร์เรียนร้องเพลงคู่กับแอ็คติ้งตลอด แล้วบังเอิญว่าตอนเทสต์ครั้งที่สองเนี่ย มดมาเทสต์ด้วยพอดี พอพี่เจมส์ได้ดูเทปที่โปรดิวเซอร์อัดไว้ก็ปิ๊งเลย จับเราสองคนมาคู่กัน เลยกลายมาเป็นโฟร์มด อย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ
แต่งานแสดงโฟร์ก็ยังไม่ทิ้งนะคะ ก็ยังทำควบคู่มาเรื่อยๆ อย่างที่เพิ่งจบไปก็หิมะใต้พระจันทร์ ถ้าถามว่าชอบอะไรมากกว่ากันระหว่างร้องเพลงและงานละครก็ต้องบอกว่าชอบละคร โฟร์สนุกกับการสวมบทบาทที่ไม่ได้เป็นตัวเอง มันท้าทายดี ว่าเราจะต้องสื่ออารมณ์ถึงคนดูยัง คนดูถึงจะเข้าใจตัวละคร แล้วอินไปกับเรื่อง ส่วนการร้องเพลงโฟร์ว่ามันขึ้นอยู่กับกระแสด้วย คือเทรนด์ของเพลงแต่ละปีก็จะเปลี่ยนไป ถ้ายังมีแฟนเพลงอยากฟังอยู่โฟร์ก็คงทำงานเพลงต่อไป เรื่อยๆ แต่โฟร์ก็รู้ดีว่าเรามีระยะเวลา เพราะโฟร์ไม่ใช่คนที่ร้องเพลงดีเยี่ยม ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักร้องจริงๆ เหมือนอย่างพี่เจมส์ หรือศิลปินรุ่นเก่าที่อยู่มานานๆ เราแค่พอร้องได้ เอนเตอร์เทนได้ดีในระดับหนึ่ง เลยขอมองเรื่องเพลงเป็นเรื่องรองค่ะ
กับงานละคร วันนี้โฟร์พอใจกับผลงานของตัวเองในระดับหนึ่งนะคะ ถึงแม้ทีมงานกับคนดูจะชอบในบทบาทที่เราเล่นแล้ว แต่โฟร์ยังต้องเรียนรู้อีกมาก ถ้าเป็นไปได้โฟร์อยากทำงานละครไปอีกนานๆ อยากเป็นที่ยอมรับของคนดู ซึ่งมันต้องใช้เวลา วันนี้โฟร์พยายามตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด พยายามฟังคำแนะนำของผู้กำกับ ฟังดารารุ่นพี่ และอ่านบทให้เข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจโฟร์จะไม่ปล่อยผ่านเหมือนตอนเรียนอีกแล้ว โฟร์จะเข้าไปถามผู้กำกับเลย ว่าเล่นแบนี้ๆ ถูกไหม ถ้าไม่ใช่ เราก็ปรับความเข้าใจใหม่ ทำทุกทางเพื่อที่จะเล่นออกมาให้ดีที่สุด
การแสดงให้อะไรโฟร์เยอะมากนะคะ อย่างแรกคือเปลี่ยนนิสัย จากที่ใจร้อนมากๆ ความอดทนก็น้อย กลายมาเป็นคนที่อดทนและพยายามได้มากขนาดนี้ ก็ถือว่าโอเคแล้ว (ยิ้ม) อีกอย่างคือมันทำให้โฟร์รู้สึกภูมิใจในตัวเอง ดีใจว่าเราค้นหาตัวเองจนเจอแล้ว และยังหาเงินมาช่วยครอบครัวได้อีก วันนี้โฟร์สามารถซื้อรถให้แม่ได้ ซื้อของให้ป๊า ส่งให้พี่เรียนได้ แล้วก็ดูแลตัวเองได้ไม่ต้องรบกวนเงินของป๊ากับแม่อีก ทั้งๆ ที่อายุแค่นี้ ก็ดีใจค่ะ
ในอนาคตถ้าเป็นไปได้ นอกจากงานแสดงแล้วโฟร์อยากลองทำงานดีเจนะ ก็เป็นคนพูดเยอะไง แล้วบิ้วท์อารมณ์ได้ อีกอย่างเป็นคนมีข้อมูลด้วย เพราะชอบอ่านชอบฟัง คนนั้นเป็นยังไง เรื่องนี้ไปถึงไหน ใครเป็นใครในวงการแฟชั่น วงการเพลง วงการดารา คืออะไรที่เป็นข่าวฮอต โฟร์จะไม่พลาด ก็คิดว่าน่าจะเหมาะนะคะ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองทำดูค่ะ"

tips 4 looking after myself
แม้จะพูดคุยมาจนเกินกลางทาง แต่ความสดใสของสาวโฟร์ก็ยังไม่มีทีท่าจะลดดีกรีลง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าที่จะมานั่งพูดคุยกับเรานั้น เธอก็เพิ่งจะให้สัมภาษณ์นิตยสารฉบับหนึ่งเสร็จ และหลังจากคิวของ Demand เธอก็มีคิวที่จะต้องเดินทางไปให้สัมภาษณ์สดรายการโทรทัศน์อีกรายการหนึ่ง จนต้องเอ่ยปากถามถึงเคล็ดลับการดูแลตัวเอง
"ทุกวันนี้โฟร์ทำงานเยอะค่ะ เวลาพักผ่อนไม่ค่อยมีหรอก แต่ถ้ามีเวลาโฟร์ชอบไปเดินเล่นตามห้าง ไปเปิดหูเปิดตา แล้วก็ไปง่ายๆ นะคะ ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ ผมเผ้าก็แค่รวบขึ้นไป หน้าตาก็ปล่อยสบายๆ บางทีเดินๆ อยู่ แฟนละครยังงงว่าใช่โฟร์หรือเปล่า เพราะเราธรรมดามากๆ (ยิ้ม)
ตัวจริงของโฟร์เป็นอย่างนี้แหละค่ะ ง่ายๆ แต่งตัวตามสบาย แต่ถ้าต้องไปงาน ไปพบผู้ใหญ่ อันนั้นก็ต้องมีกาลเทศะ ต้องดูแลตัวเองมากหน่อย ถึงจะไม่ได้ตามแฟชั่นมากนัก แต่โฟร์เป็นคนที่ใส่ใจเรื่องการแต่งกายพอสมควร คือเรารู้ว่าบุคลิกของตัวเองเป็นยังไง จุดบกพร่องของร่างกายอยู่ตรงไหน อันไหนที่ต้องปกปิด เราก็ทำซะ จะเลือกซื้อเสื้อผ้าเอง ส่วนสีสันนี่ใส่ได้ทุกแนวค่ะ ส่วนเรื่องผิวพรรณบอกตรงๆ เลยค่อนข้างขี้เกียจมาก (หัวเราะ) คือดูแลนะคะ ทาครีมกันแดด มอยส์เจอไรเซอร์ เรียนรู้เรื่องแต่งน่งแต่งหน้า แต่ไม่ถึงกับกระหน่ำอะไรมาก พยายามรักษาความสะอาดมากกว่า เรื่องอาหารการกินก็เป็นอีกเรื่องที่อยากดูแลเหมือนกัน เพราะเราทำงาน บางทีก็เลือกกินไม่ได้ จะใช้วิธีกินวิตามินเสริมบ้าง ซึ่งคุณแม่จะคอยดูแลในเรื่องนี้ให้ แต่เรื่องออกกำลังกายนี่ไม่เลย เหนื่อยค่ะ
สรุปว่าเคล็ดลับของโฟร์ในการดูแลตัวเองก้มีแค่ พักผ่อนให้พอ ทำจิตใจให้สบาย ไม่เครียด ไม่เก็บอะไรมาคิดให้วุ่นวาย ไปเดินเล่นหรือเที่ยวบ้าง แล้วก็ทานวิตามินเสริม เท่านี้เองค่ะง่ายๆ"

4 the guy of my dream
และเมื่อเราถามถึงผู้ชายคนพิเศษในความคิดของเธอ โฟร์นิ่งคิดนิดหนึ่งเหมือนไม่แน่ใจในความต้องการของตัวเองนัก
"กับผู้ชายคนพิเศษ อืม...โฟร์ไม่ค่อยตั้งสเปกมาก คือมีเหมือนกันค่ะ แต่ไม่คาดหวัง ตอนเด็กๆ นะคิดเลยว่าต้องหล่อ ขาว สูง ไม่รู้ล่ะถ้ามีแฟนจะต้องให้ได้แบบนี้ นิสงนิสัยจะเป็นยังไงไม่สนใจ ว่ากันทีหลัง (ยิ้ม) แต่ยิ่งโตขึ้น โฟร์ว่าภาพพวกนั้นมันแค่ภายนอก ที่สำคัญกลายเป็นความคิดและนิสัยมากกว่าซึ่งต้องใช้เวลาดูๆ กันไป วันนี้โฟร์ก็ยังบอกเต็มปากไม่ได้หรอกค่ะว่าชอบคนแบบไหน ยังไง... เพราะยังรู้สึกว่าอีกนาน เอาเป็นว่าขอให้เขาดูแลเราได้ เทคแคร์เราเหมือนที่ป๊ากับแม่ดูแลเรามาก็พอ
ชีวิตของป๊ากับแม่สอนอะไรโฟร์หลายอย่างนะคะ เพราะเขาลำบากมาตั้งแต่เด็ก เขาถึงต้องตั้งใจทำงาน พยายามเลี้ยงดูลูกให้สบาย ป๊าเองก็รักแม่มาก พยายามดูแลแม่ให้สบายทั้งกายและใจ แล้วเป็นคนที่เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ตกเย็นทำงานเสร็จก็กลับบ้าน ขับรถไปรับลูก ถ้าเป็นไปได้โฟร์ก็อยากให้ผู้ชายของโฟร์เป็นคนดี เทคแคร์และอบอุ่นเหมือนป๊า ยิ่งถ้ามีอารมณ์ขันด้วยก็ยิ่งดี คุยอะไรไปก็เฮฮา รับมุกกันได้ เพราะโฟร์เองเป็นคนขำๆ อยู่แล้ว ไม่ชอบคนเครียดค่ะ"
เราขอเอาใจช่วยให้เธอเดินไปสู่สิ่งที่หวังได้อย่างตั้งใจ และขอแสดงความเสียใจกับใครก็ตามที่หวังจะพิชิตหัวใจของสาวเซ็กซี่ซุกซนคนนี้ เพราะดูท่าเธอจะยังไม่พร้อม จนกว่าจะได้สยายปีกสวยประดับไว้ในวงการมายาให้สำเร็จเสียก่อน ระหว่างนี้ก็หัดงดเหล้า อดบุหรี่ไปพลางๆ ไม่งั้นถึงเวลาที่เธอพร้อม คุณจะหลุดโผไปชั่วกัลปาวสาน จะหาว่า Demand ไม่เตือน
