ทีวี อินไซด์ ฉบับนี้ไม่พลาดที่จะนำบรรยากาศความน่ารักของทั้งคู่มาให้ชมกัน พร้อมพูดคุยเปิดอกกับทั้ง 2 วัยทีน พร้อมพิสูจน์ให้หลายคนประจักษ์ ถึงไม่เน้นความเซ็กซี่ก็ดังได้ โดยเริ่มจากพี่ใหญ่ โฟร์ ที่พอจะคุ้นหน้ากันบ้าง เพราะนอกจากจะมาแรงในงานเพลงแล้ว ยังมีละคร 'รักบานฉ่ำ' ให้ได้ชมกันก่อน
"ฟีดแบ๊คละครก็ดีค่ะ หลายคนบอกว่าสนุกดี ถ่ายไปออนแอร์ไป ไม่หนักเท่าไหร่ค่ะ พอดีว่าชอบการแสดงอยู่แล้วเลยไม่หนักใจ คิดว่าสนุกมากกว่า แต่เวลาเดินไปไหนคนจะเรียกว่าใบปอๆ ใช่ใบปอหรือเปล่า ทำให้โฟร์ปลื้มมากเลยค่ะ"
ตอนนี้ภาพหนูเด่นไปทางไหน?
"ทั้งร้องเพลงและเล่นละคร แต่จริงๆ คนจำได้เป็นโฆษณา จีเอสเอ็ม 1800 ที่บอกว่า วางก่อนดิ เป็นจุดเริ่มเลย ว่าอ๋อยัยคนนี้ เริ่มจากโฆษณาตัวนั้นเลย จริงๆ โฆษณาก็มีเยอะประมาณเกือบ 30 ตัวได้ จนมาเล่นเอ็มวี 5-6 ตัว แล้วก็ได้มาเล่นของพี่ๆ วงไอน้ำ ทำให้คนรู้จักมากขึ้น"
พอมาเป็นนักร้องชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหม?
"ก็เปลี่ยนไปไม่เยอะนะคะ เพราะโฟร์เคยแสดงละครมา ความจริงการร้องเพลงมันก็มีแอคติ้งเหมือนกัน แต่เป็นแอคติ้งบนเวที แล้วจะทำยังไงให้คนดูสนุกไปกับเรา ทำยังไงให้คนฟังติดหู การดำเนินชีวิตส่วนตัวเหมือนเดิม เพียงแต่ต้องปรับบ้าง เพราะหน้าที่รับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น"
การร้องเพลงเป็นความตั้งใจแรกตอนเข้าวงการมั้ย?
"ใช่ แต่อยากลองทำอะไรหลายๆ อย่าง ตอนแรกเข้ามาได้ถ่ายโฆษณา ก็อยากเล่นเอ็มวี มิวสิควิดีโอ พอได้เล่น ก็อยากแสดง อยากเล่นละครก็ได้เล่น พอเล่นก็อยากร้องเพลงแล้วก็ได้ร้อง ชอบงานในวงการทุกอย่าง ตอนนี้ได้เป็นพิธีกรรายการ ดี-ครับ"
ผู้ใหญ่ป้อนงานให้เยอะ?
"เหมือนจังหวะดีมากกว่า ลองไปแคสต์งานพิธีกรก็ได้ เขาจะดูความสามารถของเราก่อนว่าถึงมั้ย ถ้าไม่ถึง ออกไปมันไม่ดี ก็ไม่ได้"
คุณแม่ว่าอะไรบ้าง ลูกสาวเป็นดารา?
"เขาไม่ว่า เขาคอยสนับสนุน แล้วบอกว่าอันนี้ดี อันนี้ไม่ดี อย่างงานพิธีกร ก็จะบอกฟีดแบ๊คกลับมาว่าเป็นยังไง ละครแม่ว่าตรงนี้ไม่ดี ตรงนี้ดีแล้วนะ"
เรื่องภาพเซ็กซี่?
"(หัวเราะ) เซ็กซี่ไม่ไหวค่ะ ไม่มีอะไรจะโชว์ ตัวเราเป็นเด็กไม่ได้เป็นสาวเต็มตัว ขาแห้งเป็นตะเกียบ ไม่ได้ดูเซ็กซี่อะไรเลย"
ดาราหลายพอเริ่มมีชื่อเสียง มักมีข่าวในด้านลบตามมา?
"ไม่ห่วงค่ะ แล้วก็ไม่ได้เตรียมใจ หนูเห็นทุกคนก็มีข่าวกัน แล้วเชื่อว่าสักวันคนอ่านจะรู้เอง โฟร์ไม่ได้สนิทสนมกับใครเป็นพิเศษอยู่แล้ว คุยได้กับทุกคน ไม่กลัวว่าจะมีข่าวไม่ดีออกมา ส่วนครอบครัวเขาก็คอยดูให้ แล้วถามว่าจริงหรือเปล่า ถ้าไม่จริงเขาก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวคนอื่นก็รู้เองแหละ"
ได้ข่าวว่ามีหนุ่มๆ ในอาร์.เอส.ฯ ปลื้มเยอะ?
"อันนี้โฟร์ไม่ทราบ แต่เวลาเจอใครก็คุยกัน เป็นพี่น้องกันหมดทุกคน อาจเป็นเพราะเราเป็นตัวของตัวเองมั้ง เป็นคนพูดตรงๆ ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ ตรงนี้อาจจะทำให้คนอื่นรู้สึกดีได้"
วงการให้อะไรกับ โฟร์ บ้าง?
"ตอนนี้ก็ความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความระมัดระวังตัว มีการวางตัวและการใช้ชีวิต ทำให้รู้ทันคนมากขึ้น ได้เจอคนเยอะแยะ รู้ว่าเขาเป็นยังไง ได้ศึกษาคนมากมาย"
มาที่น้องเล็กกันบ้าง ถึงแม้จะมีโอกาสได้ชิมลางร้องเพลงเป็นครั้งแรก แต่ความสดใสที่มากด้วยความตั้งใจ ทำให้ชื่อ "มด-ชุติมนฑน์ ชัยรัตน์" ติดทำเนียบนักร้องดาวรุ่งไปเรียบร้อยแล้ว
เข้าวงการได้ยังไง?
"มดเข้ามาได้เพราะ พี่เจมส์-เรืองศักดิ์ ชักชวนมาทำ มีอยู่ครั้งหนึ่งเรียนร้องเพลงคลาสเดียวกันกับพี่โฟร์ แล้วมีพี่โปรดิวเซอร์จาก ไอดี เรคคอร์ด เขามาถ่ายพี่โฟร์ แต่หนูอยู่ในคลาสนั้นด้วย เขาเลยบอกว่าถ่ายไปเลยก็แล้วกัน แล้วเอาไปให้พี่เจมส์ดู พี่เจมส์บอกว่าเลือกหนูเข้าไปคุย เขาบอกว่าจะทำอัลบั้มเพลงมั้ย เราอยากทำด้วย เพราะตอนเด็กฝันว่าอยากเป็นนักร้อง"
พอได้ทำจริงกับที่คิดไว้ต่างกันมั้ย?
"ตอนแรกคิดว่าง่ายๆ สบายๆ แต่พอทำจริงรู้สึกว่ายาก ถึงแม้มดจะเรียนร้องเพลงมาแล้วก็เถอะ แต่เข้าห้องอัดต้องคุมเสียงด้วยว่าอยู่โทนไหนถึงจะเหมาะ จะโอเค ถ้าเพี้ยนจะออกเลย"
พี่โฟร์ ทำงานมาก่อน แฟนๆ อาจกรี๊ดมากกว่า?
"ตอนแรกกลัวนิดๆ ว่าจะดีเหรอ แต่พี่โฟร์บอกว่าไม่ต้องกลัวหรอก ทำตามสบายไม่ต้องเกร็ง ทำอย่างที่เรามั่นใจ พี่โฟร์ช่วยด้วย เพราะตอนแรกที่รู้ว่าต้องร้องเพลงคู่กัน หนูก็เฉยๆ เพราะได้ทำในสิ่งที่เราอยากจะทำก็โอเคแล้ว อยากทำให้ได้ มีฝึกแอคติ้งบ้าง จะถามพี่โฟร์ว่าทำยังไง พี่โฟร์ก็บอกว่าตามสบาย เป็นตัวเอง"
เพลงที่สื่อออกไป กับตัวของมด ต่างกันมั้ย?
"ไม่ค่ะ เพราะมดชอบฟังเพลงช้าๆ ซึ้งๆ พี่โปร์ดิวเซอร์ก็แต่งเพลงช้าให้ คือทุกเพลงร้องคู่หมด แต่บางเพลงมดอาจจะร้องมากหน่อย หรือบางเพลงอาจเป็นพี่โฟร์ร้องมาก ก็แล้วแต่สำหรับเพลงที่พี่โฟร์ร้องมากก็จะออกเพลงเร็ว ของมดก็จะออกช้าๆ ซึ้งๆ โรแมนติกนิดๆ"
คิดไหมว่าจะดังขนาดนี้?
"ตอนแรกคาดหวัง แต่กลัวว่าทำไปแล้ว กลัวว่าคนจะจำเพลงเราได้มั้ย จะร้องเพลงเราได้มั้ย อีกอย่างหนูไม่เคยทำอะไรมาก่อนเลย ถ้าทำไปแล้วคนจะรู้จักมั้ย พอผลออกมาคนรู้จักก็รู้สึกดีใจ เพราะไม่เคยทำอะไรมาก่อน พอได้ทำสิ่งที่เราชอบแล้วมีคนรู้จักก็ภูมิใจรู้สึกดีใจที่มีคนเขาร้องเพลงเราได้ เขาเต้นเพลงเราได้ แค่นี้ภูมิใจแล้ว ขอบคุณเพื่อนๆ ด้วยที่ร้องเพลง โฟร์-มด ชอบเพลงของเราแล้วติดตามผลงานของพวกเรา ขอบคุณทุกคน ถ้าไม่มีทุกคน ก็ไม่มีใครรู้จัก"
สาเหตุที่แจ้งเกิดเร็ว?
"ตอนแรกหนูไม่ได้คิดอะไรว่าจะดังขนาดนี้ คือเราทำของเราให้ดีที่สุด ดีไม่ดียังไงขึ้นอยู่ที่ว่าเราทำดีหรือยัง หนูจะดูตัวเองก่อนว่าเราดีแค่ไหน ดีมากพอมั้ย ส่วนเสียงวิจารณ์มีบ้างนิดหน่อย ก่อนจะออก พี่เจมส์เคยบอกว่าเราต้องเปลี่ยนบุคลิก เราไม่ใช่คนธรรมดาแล้ว เราเป็นคนของประชาชน ต้องทำตัวเป็นเด็กดี"
คำพูดที่ว่า 'ขายความน่ารักมากกว่าขายเสียง' รู้สึกยังไง?
"เฉยๆ ค่ะ หนูเป็นตัวของตัวเอง ยอมรับว่าถึงเสียงไม่ดียังไง แต่หนูมั่นใจว่าสิ่งที่เราทำ เราทำดีที่สุดแล้ว คนจะมองยังไงก็ไม่ได้อะไร บางทีมีคนวิจารณ์ อาจจะเป็นข้อเสนอแนะข้อหนึ่ง ก็เอามาเทียบกับตัวเอง แล้วคิดว่าเราเป็นจริงมั้ย ถ้าจริงก็ปรับตัวให้ดีขึ้น ถ้าไม่จริงก็เป็นแบบตัวเองนี่แหละ"
ขายเซ็กซี่มั้ย?
"ไม่ค่ะ พูดได้เลยว่าไม่"
เราอยากได้แนวนี้หรือทีมงานจัดให้?
"คือพี่โปรดิวเซอร์จะถามว่าชอบอะไรแบบไหน เขาจะถามเลยว่าเป็นยังไง แต่งตัวแบบไหน หนูบอกไปเลยว่าชอบสีชมพู ใส่กระโปรง เป็นสาวหวาน ต้องดูตัวหนูด้วยว่าอายุสมควรมั้ย หนูยังเด็กอยู่ โก๊ะๆ อยู่เลย"
แล้ว โฟร์-มด ขายอะไร?
"ขายความเป็นตัวเอง อย่างในอัลบั้ม ออกมายังไงก็เป็นอย่างนั้นเลย"
ที่บ้านไม่สนับสนุนให้เซ็กซี่?
"บางอย่างถ้าไม่สมควรจริงๆ เขาจะบอก ถ้าได้จะอนุญาต ถ้าดีเขาก็สนับสนุน ถ้าออกมาไม่ดีก็ห้ามว่าไม่ได้นะ อย่านะ เดี๋ยวภาพจะติดลบ เราต้องรักษาว่าดีมั้ย ถ้าทำแล้วผลเป็นลบก็ไม่ทำ"
การเป็นศิลปินที่ดี?
"ต้องเป็นตัวของตัวเอง ต้องมีความมั่นใจ แต่บางทีมากไปก็ไม่ดีเหมือนกัน เราต้องคิดก่อนทำ แล้วเป็นตัวของตัวเอง แค่นั้นแหละค่ะ คือไม่ใช่ว่าทุกคนเกิดมาสวยน่ารักหมด มันขึ้นอยู่กับว่าเป็นตัวของตัวเองมากแค่ไหน นิสัยดีมั้ย คนเราไม่ได้ดูที่หน้าตาหรอก ต้องดูที่จิตใจ"
ได้ฟังทัศนคติดีๆ จาก 2 สาววัยทีนไปทุกแง่มุม เชื่อว่าความสดใสและความน่ารักของทั้งคู่จะอยู่ในใจไปอีกนาน
ชมภาพแฟชั่นในฉบับ คลิ๊กที่นี่
