แต่เมื่อพวกเธอเลือกแล้วกับการก้าวเข้ามาสู่ในแวดวงศิลปิน-นักร้อง ตั้งแต่วันแรกในนามของ โฟร์-มด (Four-Mod) พวกเธอก็รู้อยู่แล้วว่า...ชีวิตของตนก็กำลังจะต้องค่อยๆ เปลี่ยนไป...เปลี่ยนไป และเปลี่ยนไป
สิ่งที่ทำให้พวกเธอมีความสุขที่สุดกับภารกิจใหม่ครั้งนั้น คงจะเป็นการทำชีวิตประคองจิตใจของเธอ ให้เป็นปกติ เป็นการดีที่สุดเช่นกัน
ซึ่งเรื่องงานก็ถือเป็นกำไรชีวิตให้พวกเธอได้ลิ้มลอง และถึงขั้นต้องแปลกใจร้อง...วู้ววว! ว่าเธอก็ทำได้ทั้งๆ ที่ในใจก็เคยลังเล และอัลบั้มเพลงชุดใหม่ ซึ่งเป็นชุดที่ 3 "Four Mod Wooo!" ที่ทำให้พวกเธอคิดฝันไปอีกขั้นถึงความเป็นไปได้ที่มันมีโอกาสที่จะตามมาในอนาคต
จำวันแรกๆ ที่โฟร์ และมด ได้เจอกันครั้งแรกได้หรือเปล่า?
มด : ก็รู้สึกเฉยๆ ค่ะ เพราะเราเองก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเหมือนกัน
โฟร์ : โฟร์ก็เหมือนกันค่ะ เราเจอกันมาตั้งแต่ตอนเรียนร้องเพลงแล้ว ก็ไม่ได้สะดุดตาเล้ย...ค่ะ กับน้องมดเขา เพราะหน้าตาเขาน่ารัก จิ้มลิ้มซะ!!! ผมยาว ทำหน้าม้ามาอีกต่างหาก (หัวเราะ) ใส่กระโปรงบานๆ สีว้าน...หวาน ก็รู้สึกได้เลยว่า...เด็กผู้หญิงคนนี้หวานได้ใจเอามากๆๆๆ (หัวเราะ)
เมื่อโฟร์ทำการบอกเล่าอย่างไม่เก็บงำ ก็เป็นทีของสาวมดแล้ว ที่จะขอเม้าท์แก้คืนบ้าง!!!
มด : มดจำได้แล้วค่ะ เจอกับพี่โฟร์ครั้งแรกๆ เลยนะ หน้าพี่โฟร์เขาจะนิ่งมากๆ ค่ะ ทำให้ใครที่เห็นเขาในตอนนั้นจะคิดว่า เขาต้องดุมากแน่ๆ เลยเชียว (หัวเราะ) แต่ในที่สุดแล้ว มดก็แสดงตนเป็นผู้กล้าคนแรกเลยนะคะที่กล้าที่จะไปคุยกับพี่โฟร์เขาก่อน ก็ได้รับฟีดแบ็กจากพี่โฟร์กลับมาดีมากๆ เลย
โฟร์ : เพราะมดเขาเอาแต่ชวนคุยค่ะ ถามโน่นนี่ว่า...พี่โฟร์ทำงานถ่ายโฆษณา ถ่ายมิวสิควีดีโอ ถ่ายแบบสนุกไหม? คือมดเขาจะอัธยาศัยดีมากๆ ค่ะ
ในที่สุดทั้งโฟร์-มด ก็กลายเป็นดูโอคู่ใหม่ที่ใครๆ นึกถึงกัน?
โฟร์ : ก็ขอบคุณทุกๆ คน ทุกๆ กำลังใจที่มีให้กับโฟร์ และมดนะคะ เพราะก็มีอยู่เหมือนกันที่มาทักโฟร์ และมด ว่า...ยังคงชอบและติดตากับภาพนักร้องคู่ใสๆ น่ารักๆ
มด : ซึ่งเป็นพวงมาอย่างนี้ตลอดเลยค่ะ แม้ว่า...เราไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากันครบ 2 คน ก็ยังมาทักเลยว่า...โฟร์-มดๆๆๆ คงต้องปล่อยให้เรียกกันแบบนี้ค่ะ เพราะแยกกันไม่ออกเลย (หัวเราะ)
โฟร์ : เรียกว่า...ทางค่ายมองภาพออกก็ได้ค่ะ เพราะเขาตั้งใจที่จะเลือกนักร้องหน้าใหม่ที่มีลุคส์ใสๆ เพื่อที่จะเป็นตัวแทนของวัยรุ่นเมื่อ 2-3 ปีก่อนค่ะ ซึ่งโชคดีที่เพลงของพวกเราติดหูด้วย อาทิ หายใจเป็นเธอ, Love Love ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราเองก็ไม่ได้หวังอะไรไว้เยอะแยะว่า...เราเป็นนักร้องแล้ว เราจะต้องดังมากๆ นะ หรือมีคนรู้จักอะไรเยอะๆ เพราะเราไม่กล้าหวัง แต่พอเพลงออกมาแล้วคนชอบเราก็รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ทำได้กับอายุแค่นี้
กลายเป็นอีกตำนานของวงการ?
โฟร์ : โฟร์ว่านะคะ นักร้องวัยรุ่นใสๆ มันมีมานานมากแล้วล่ะค่ะ แต่มันก็ได้หายไปในช่วงเวลาหนึ่งอยู่เหมือนกัน และพอเราสองคนเริ่มกลับมาทำกันใหม่เป็น 2 สาวดูโอ สดใส คนก็เลยบอกว่า...คนฟังบางกลุ่มที่เขาต้องการแบบนี้เขาก็ไม่เจอ เพราะเขาเจอแบบเซ็กซี่ แบบเปรี้ยวไป แต่กลุ่มเด็ก 9-10 ขวบหรือ 13 เขายังชอบกับความสดใสๆ อยู่ เราก็จะได้กลุ่มนี้เป็นหลัก และคนทั่วไปตามมา
น้องๆ หลายคนพยายามยึด โฟร์-มด เป็นแบบอย่างด้วย?
โฟร์ : ดีใจค่ะ ที่เห็นพวกเราพอจะเป็นแบบอย่างหรือไอดอลได้ค่ะ แต่ที่สุดแล้วทุกๆ คนก็ควรเป็นไปในแนวทางของตัวเองนะคะ เพราะสิ่งที่เราทำกันอยู่ก็ไม่ได้มีอะไรที่ต้องเปลี่ยนแปลงจากตัวเองเลยค่ะ จากอัลบั้มแรกๆ จนถึงอัลบั้มล่าสุด ชุดที่ 3 โฟร์-มด วู้ววว! (Four Mod Wooo!) เราก็ยังเป็นเราอยู่เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากมาย เพราะก็ยังดูสดใสน่ารักตามวัยตามปกติ ไม่ต้องฝืนอะไร
เคยมีอารมณ์อึดอัดมากไหมกับการเป็นที่รู้จัก?
โฟร์ : ไม่ถึงขั้นอึดอัดนะคะ แต่ช่วงแรกๆ อาจถึงขั้นทำตัวไม่ถูกอยู่เหมือนกันก็มี เพราะอยู่ๆ ก็มีคนเข้ามาทัก อยู่ๆ ก็มาเดินตาม ก็คิดว่า...จะทำอย่างไรดี??? ออกเป็นแนวงงเสียมากกว่า พอเริ่มเข้าที่เข้าทาง ก็กลายเป็นว่า...เข้าใจได้เองโดยอัตโนมัติเลยค่ะ ว่าจะต้องวางตัวอย่างไร เพราะมาถึงจุดนี้ ต้องยอมรับให้ได้เหมือนกัน
มด : ของมดก็เหมือนกันค่ะ ตอนแรก...ไม่ชินอย่างแรง เพราะโดยปกติ เมื่อวานเรายังเป็นเด็กนักเรียน เดินเที่ยวเล่นกับเพื่อนที่สยามฯ อยู่ดีๆ ตอนนั้นมดอายุแค่ 14 ปี เองค่ะ ยังปรับตัวเองไม่ได้สักเท่าไร เพราะงานเข้ามาเยอะมาก แถมต้องทำงานตอนกลางคืนด้วย ง่วงนอนก็งอแงตามประสา ความรับผิดชอบก็เริ่มเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
แต่เรื่องความเป็นส่วนตัว คนอยากรู้เรื่องราวความรัก ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ?
โฟร์ : โฟร์ก็เข้าใจนะคะว่า...ผู้สื่อข่าวก็คืออาชีพอย่างหนึ่ง อาชีพของเขา โฟร์ก็ต้องเข้าใจ ณ จุดนี้ เพราะโฟร์เองก็เป็นนักร้อง อยู่ในวงการบันเทิง ก็ย่อมที่จะมีคนมาสนใจ มาจับตาก็เป็นเรื่องธรรมดา โฟร์คงต้องทำตัวให้ได้ดีที่สุด ทำตัวให้เหมาะสมที่สุดเท่านั้น ถ้าคิดจะอยู่ในวงการนี้เราก็ต้องทำตัวเป็นคนของประชาชนเช่นกัน ซึ่งเรื่องราวความรักของโฟร์ ก็ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษมากมายกว่าใครนะคะ ก็มีความสุขเป็นปกติธรรมดา ใจจริงแล้วโฟร์อยากให้ใครๆ สนใจในเรื่องของผลงานการทำงานของโฟร์มากกว่าค่ะ
อัลบั้มชุดที่ 3 แล้ว?
มด : อัลบั้มนี้ โฟร์-มด วู้ววว! (Four Mod Wooo!) ค่ะ เหมือนเป็นคำที่พวกเราจะใช้ทักทาย แฟนๆ เพลงของพวกเรา เหมือนเป็นสัญญาณบอกว่า...โฟร์-มด มาแล้วนะ!!! ที่เราไม่ได้มาแค่ให้เห็นหน้าอย่างเดียว แต่ก็ยังพกพาความสนุกสนานมาอีกด้วย
โฟร์ : นอกจากจะต้องการสื่อว่า...วู้ววว! โฟร์-มด มาแล้ว มันก็เป็นคำใหม่ ที่ต้องการจะสื่อถึง ความเก๋ เท่ น่ารัก สวย เซี้ยว เปรี้ยว ซ่า แสบ อะไรประมาณนี้ด้วย ซึ่งจะได้เห็นแบบครบทุกรสชาติของความอินเทรนด์แบบโฟร์-มด ในอัลบั้มนี้เลยค่ะ
เหมือนกับเพลงสนุกๆ "เด็กมีปัญหา"?
(โฟร์ พี่ใหญ่ ขอเล่นขายของทันที!!!)
โฟร์ : ในเพลงก็จะเป็นจังหวะสนุกๆ พอจะโยกไปมาได้ เนื้อหาก็ประมาณว่า...เราเป็นเด็กมีปัญหานะ เราหาแฟนกันไม่ได้เลย เพราะเรามัวแต่เอาแต่ใจ ซ่า เปรี้ยว วุ่นวาย เท่ๆ เป็นตัวของตัวเองมากจนเกินไป ก็เลยกลายเป็นเด็กมีปัญหาซะอย่างนั้น
มด : ในเนื้อเพลงอาจจะอ้างอิง ประมาณเพื่อนก็ได้ค่ะ ที่ไม่ค่อยอยากมีใครมายุ่งกับเราเท่าไร เพราะเราปัญหาเยอะ ซึ่งเราก็ได้ช่วยพี่ๆ ทีมงานในเรื่องของการเลือกเพลงในอัลบั้มว่าจะเอาแบบไหนกันดีนะ ก็เรียกว่าเสร็จออกมาก็ถูกใจเราทั้งหมดค่ะ
โฟร์-มด เคยมีปัญหาเหมือนในเพลงบ้างไหม?
โฟร์ : ไม่หรอกค่ะ เพราะเราเป็นคนดี (สองสาวพากันหัวเราะร่วน)
อัลบั้มนี้มีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นด้วย?
โฟร์ : ก็ตามเทรนด์ของโฟร์-มด เป็นป๊อปใสๆ ปกติ แต่ก็มีปัญหากับคนโน้นคนนี้มากไปหน่อย เลยมีปัญหาไปไกลถึงญี่ปุ่น (หัวเราะ) ก็จะมีบางเพลงเท่านั้น อย่างเพลง วาซาบิ ที่มีการร้องแร็พ เป็นภาษาญี่ปุ่นด้วย ก็จะได้กลิ่นอายเป็นเรื่องของภาษามา
มด : ซึ่งพวกเราเองก็พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้หรอกนะคะ ก็พูดได้เป็นคำๆ ที่ใช้ทักทาย และในชีวิตประจำวันเท่านั้น
ชุดเสื้อผ้าก็ดูแรงเอาการ?
โฟร์ : โฟร์เองเห็นเสื้อผ้าครั้งแรกก็รู้สึกว่า...น่ากลัวมากๆ เหมือนกันค่ะ แต่ทางทีมงานก็ยังคะยั้นคะยอให้ลองใส่ก่อนนะ เชียร์กันใหญ่ว่า...ถ้าใส่ออกมาแล้วมันน่ารักมากนะ เพราะทีมงานอยากให้เราใส่แฟชั่นแรงๆ สีเจ็บๆ แบบนี้ เพื่อที่จะได้ให้แฟนเพลงเห็นโฟร์-มด แล้วให้ร้อง วู้ววว อยู่เหมือนกันค่ะ
มด : แต่เราก็ร้อง วู้ววว ออกมาเองเสียก่อนเลย ว่าเป็นไปได้ไง เรากับชุดนี้ (หัวเราะ)
เห็นว่าได้มีโอกาสเดินทางไปถ่ายทำมิวสิกวิดีโอที่ประเทศญี่ปุ่น?
โฟร์ : ค่ะ เพราะงานชุดนี้มีเรื่องของเทรนดี้เข้ามาผสม ที่ประเทศญี่ปุ่นเลยสื่อให้เห็นชัดที่สุด ซึ่งคนญี่ปุ่นก็น่ารักมากๆ และดูชื่นชอบกับพวกเราด้วย บอกว่า...เราน่ารักนะ ขอถ่ายรูปด้วย
มด : แต่ที่เป็นเรื่องขำขำกันไปก็มีค่ะ เขาถามเราว่า...เต้นๆ อยู่ แล้วใส่ชุดแบบนี้ (ชุดโปรโมตในอัลบั้ม วู้ววว!) ไม่หนาวหรืออย่างไร เพราะคนญี่ปุ่นที่เป็นคนที่เกิดที่นั่นตั้งแต่กำเนิดเอง เขาก็ยังคิดว่า...ที่นั่นมันหนาวเอามากๆ (หัวเราะ)
โฟร์ : และมีอีกอย่างหนึ่งที่เราได้มาค่ะ คือ เรื่องของเวลาในการทำงานที่นั่น มันสำคัญมากๆ เรียกได้ว่าเราทำทุกอย่างแข่งกับเวลาสุดๆ เหมือนกัน
อย่างนี้มีแอบคิดถึงการโกอินเตอร์บ้างเปล่า?
โฟร์ : ไม่เคยคิดเลยนะ ว่าอยากโกอินเตอร์ ไปเมืองนอกอะไร แต่แน่นอนค่ะ ในส่วนของความฝันมันต้องมีอยู่แล้ว กับการมีความคิดที่ไกลตัวออกไป เพราะไหนๆ พวกเราก็มีโอกาสได้เข้ามาทำงานตรงนี้ แต่ที่สุดแล้วของการโกอินเตอร์ มันไม่ใช่แค่ใครจะมาผลักดันเราว่า...ไปโกอินเตอร์กับฉันไหม? แต่การไปถึงระดับนั้นได้มันต้องมาจากความสามารถของศิลปินคนนั้นๆ จริงๆ ค่ะ
มด : เราคงต้องมีการพัฒนาศักยภาพของเราเองให้เพิ่มขึ้นมากกว่านี้อีกเยอะค่ะอยากเก่งมากกว่านี้ เพราะเราเองก็รู้ดีว่า...ถึงเราจะมีคนที่ชื่นชอบ โฟร์-มด ในประเทศเยอะ แต่มันอาจจะด้วยเหตุผลอะไรหลายๆ อย่าง มากกว่าเรื่องของการร้องเพลงของเราแต่เพียงอย่างเดียว เรารู้นะคะว่า...การร้องเพลงของโฟร์-มด เอง ก็ยังไม่ดีมากพอที่จะก้าวต่อไปถึงขนาดนั้น เพราะเราร้องเพลงกันแบบธรรมดาๆ น่ารักๆ จริงๆ ก็คงอีกนานเลยค่ะ ที่เราจะไปถึงตรงนั้นได้ ซึ่งเราเองก็ยังรู้สึกตื่นเต้น และดีใจกับเพื่อนๆ ศิลปินชาวไทยด้วยว่า...เขาเป็นที่ยอมรับของประเทศอื่นๆ ได้ สักวันหนึ่งถ้าเป็นเราก็คงจะดีเหมือนกัน
