
ถามถึงงานตอนนี้
โฟร์ : หนึ่งวันในตอนนี้ส่วนใหญ่จะหมดไปกับการเตรียมตัว และเตรียมงานในอัลบั้มใหม่ค่ะ เป็นอัลบั้มที่เราทั้งคู่อยากให้ออกมาดีที่สุด ดังนั้นจึงให้ความละเอียดในทุกๆ ขั้นตอน ที่สำคัญต้องให้สมกับการที่แฟนคลับของเราตั้งตารอมานานค่ะ
มด : ก็เป็นช่วงของการเตรียมงานในอัลบั้มใหม่ค่ะ ซึ่งช่วงนี้ก็กำลังเข้าห้องอัดค่ะ รออีกนิดนึงนะคะ อีกไม่นานเกินรอ
อัลบั้มชุดใหม่นี้เป็นสไตล์ไหน
โฟร์ : ยังมีความสดใสในแบบที่เราเป็นเราอยู่ค่ะ คือเน้นไปที่เพลงใสๆ หวานๆ ฟังสนุกๆ แล้วก็ไม่เหมือนใคร และอาจจะมีความเซ็กซี่นิดๆ ขึ้นมาหน่อย เพื่อให้เห็นว่าเราทั้งคู่โตขึ้นกว่าเมื่อก่อน ทางพี่ๆ ทีมงานก็เลยบอกว่าอัลบั้มชุดนี้น่าจะสามารถสะท้อนตรงนั้นออกมาได้
มด : ยังคงความเป็นโฟร์-มด ที่ใสๆ อยู่ค่ะ เพลงส่วนใหญ่น่ารักสดใส มีการเพิ่มสีสันเข้าไปอีกนิดหน่อย ซึ่งอัลบั้มชุดนี้ก็น่าจะเป็นที่ถูกใจแฟนๆ อยู่ไม่น้อย ที่สำคัญอัลบั้มชุดใหม่นี้อาจจะเห็นพัฒนาการของเรามากยิ่งขึ้น
พัฒนาการที่ว่าคือพัฒนาการไปในแนวไหน
มด : ก็คงเป็นพัฒนาการของการร้องเพลงค่ะ คืออัลบั้มชุดนี้เราได้เพิ่มเพลงในแนวฟังสบายๆ ใสๆ เข้าไปมากกว่าอัลบั้มชุดก่อน คือไปเน้นที่เพลงในแนวบัลลาดมากยิ่งขึ้น เพราะการร้องเพลงในแนวนี้ต้องอาศัยประสบการณ์ที่สั่งสมมา ไม่ใช่ว่าอยากร้องเพลงแนวนี้ก็สามารถร้องได้ทันที มันต้องเป็นเรื่องที่ค่อยๆ เก็บชั่วโมงบินและก็ค่อยๆ เรียนรู้กันค่ะ นอกจากนั้นสิ่งที่จะมาสร้างสีสันอีกอย่างในอัลบั้มชุดนี้ก็คือ "การอิมโพรไวซ์" อย่างในอัลบั้มที่ผ่านๆ มาไม่ได้มีการอิมโพรไวซ์มากมายขนาดนี้ ก็จะมีพัฒนาการในเรื่องของเมโลดี้ สุดท้ายก็จะมีพัฒนาการในเรื่องของเนื้อหาของเพลงที่ดูเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้นค่ะ
แสดงว่าไม่ได้เน้นดนตรีที่มี "สีสันจัดจ้าน" อย่างที่ผ่านมาสิ
โฟร์ : คือมันไม่ได้เปลี่ยนแบบฉีกไปเลย เรื่องความสดใส และจัดจ้านของแนวเพลงก็ยังคงอยู่ แต่ว่ามันมีส่วนที่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้อัลบั้มชุดนี้มีความสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อให้เห็นว่าเราทั้งคู่มีพัฒนาการของการทำงานที่สำคัญโฟร์ก็เชื่อว่าแฟนๆ ของเราก็น่าจะพอใจกับสิ่งที่เราอยากนำเสนอตรงนี้
มด : ส่วนหนึ่งก็ยังคงความเป็นเราคือยังคงความสดใสแบบแนวเพลงวัยรุ่นใสๆ มันๆ แล้วก็สนุกสนานอยู่ค่ะ
อัลบั้มชุดใหม่นี้สะท้อนตัวตนมากมายแค่ไหน
โฟร์ : ถือว่ามากทีเดียวค่ะ สะท้อนความสด สะท้อนความใส และสะท้อนว่าเราทั้งคู่โตมากขึ้นแล้ว ดังนั้นเพลงส่วนหนึ่งจึงออกมาในแนวเซ็กซี่เล็กๆ ต้องพูดให้ฟังอย่างนี้ดีกว่า
มด : ก็มากทีเดียวล่ะค่ะ อย่างที่เล่าให้ฟังในตอนแรกอัลบั้มนี้เรายังคงคอนเซ็ปต์งานเพลงใสๆ และสนุกสนาน ต้องบอกล่วงหน้าเลยนะว่า ถ้าได้ฟังผลงานชุดนี้แล้ว หลายคนต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "โฟร์-มด สามารถทำได้ขนาดนี้เลยหรือ" หรือบางคนก็อาจจะอุทานว่า "โอ้ว" อะไรประมาณนี้ มันมีความพิเศษจริงๆ ต้องบอกอย่างนี้ดีกว่าค่ะ
ความรู้สึกตอนนี้เข้ารูปเข้ารอยเหมือนเดิมหรือยัง หมายความว่าฝันร้ายในวันที่ผ่านๆ มา ยังตามหลอกหลอนในเรื่องของการทำงานมั้ย
โฟร์ : ต้องขอโทษจริงๆ นะคะ ไม่อยากแม้แต่จะคิดถึงเลย ขอไม่พูดดีกว่าค่ะ
มด : (หัวเราะ) ก็ยังเครียดๆ อยู่เลยค่ะ คือยอมรับนะคะว่าตอนนี้เครียดกับหลายๆ เรื่อง อย่างตอนนี้ก็จะมีอัลบั้มใหม่ที่ต้องสู้ตายทุกๆ วัน นอกจากนั้นก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบเอ็นทรานซ์ แล้วก็เรื่องฝันร้ายอย่างที่บอกนั่นแหละ จะให้เหมือนเดิมก็คงไม่ใช่ แต่ว่าทุกๆ อย่างก็สู้ตายค่ะ เพราะกำลังใจดีมากๆ
ถามถึงวิธีการจัดการความรู้สึกจนทำให้กลับมายืนได้เหมือนเดิมอย่างวันนี้
โฟร์ : ก็พยายามทำงานให้มากๆ เพื่อที่จะลืมเรื่องตรงนั้นให้ได้ แต่ว่าก็ไม่ใช่หนีความจริงนะคะ คิดว่าเป็นเรื่องที่มันผ่านเข้ามาแล้วไม่นานมันก็ต้องผ่านไปในที่สุดคิดอย่างนี้ค่ะ
มด : ก็พยายามทุ่มเทให้แก่การทำงาน อย่างตอนนี้ก็ไม่ได้ไปโรงเรียนแล้ว ก็จะรอผลการสอบเอ็นทรานซ์อย่างเดียว ดังนั้นจึงโฟกัสไปที่เรื่องของการทำงาน ก็ช่วยไม่ให้ฟุ้งซ่านได้มากเลยล่ะค่ะ
แล้วมดเลือกคณะอะไรไปบ้างล่ะ
มด : ก็จะมีนิเทศศาสตร์ อินเตอร์ ที่จุฬาฯ ค่ะ และก็เลือกการจัดการสื่อสารมวลชนที่ม.มหิดล ไปด้วยที่เลือกทั้ง 2 อย่างเพราะว่าชอบและเห็นความสำคัญค่ะอย่างที่เลือกเรียนนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ก็เพราะว่าทำงานในตรงนี้ในอนาคตก็น่าจะได้ใช้งาน อย่างที่เลือกเรียนการบริหารในลำดับที่ 2 ก็เพราะว่าทุกๆ อย่างก็ต้องอาศัยการบริหารซึ่งถือเป็นศาสตร์ที่ไม่น่าจะมีวันตาย พูดง่ายๆ ว่าเลือกเรียนในสิ่งที่น่าจะมีประโยชน์แก่ตัวเองในอนาคตจริงๆ
กับที่มีเรื่องหลุดๆ ออกมาบ่อยๆ อย่างนี้ มีผลกับงานบ้างมั้ย
โฟร์ : ถ้าบอกว่าไม่มีก็ดูเหมือนว่าโกหก มีอยู่แล้วล่ะค่ะ เพราะมันเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจตัวเองมากๆ แต่ก็ถือว่าตัวเองโชคดีอยู่อย่างหนึ่งที่มีคนรอบๆ ตัวเราเข้าใจ และให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา แต่กว่าจะผ่านช่วงเวลาที่เป็นประหนึ่งฝันร้ายตรงนั้นมาได้ก็ยากมากๆ เลยล่ะ อย่างเวลาไปทำงานก็ต้องทำให้ได้ดีที่สุด ซึ่งก็ต้องบอกว่าใช้ความสามารถมากกว่าตอนที่ยังไม่เกิดเรื่องด้วยซ้ำไป เพราะทั้งต้องทำงานและต้องดูแลสภาพจิตใจของตัวเองไปด้วย คือดูเหมือนว่าต้องเหนื่อยเป็น 2 เท่าตัวเลยล่ะ
มด : ก็อาจจะมีบ้างค่ะ แต่ก็ต้องบอกว่าได้กำลังใจจากคนที่อยู่ข้างๆ ค่ะ ดังนั้น ต่อให้ปัญหารุมเร้าเข้ามามากมายแค่ไหนก็สามารถที่จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครอบครัว พี่ๆ โปรดิวเซอร์ เพื่อนๆ และที่สำคัญเราทั้งคู่ก็ให้กำลังใจกันและกันมาตลอดเวลาค่ะ มดว่าถ้าคนใกล้ชิดเราเข้าใจเราก็น่าจะลงตัวที่สุดแล้วนะคะเวลาที่เรามีปัญหา
ณ ตอนนี้คดีคืบหน้าอย่างไร
โฟร์ : เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่กำลังจัดการเรื่องต่างๆ นานาให้ค่ะ เพราะว่าทางผู้ใหญ่ก็อยากให้เราทั้งคู่เต็มที่กับงานตรงนี้มากกว่า

แล้วชอบศิลปินคนไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า เพราะคนที่ทำงานตรงนี้ส่วนใหญ่จะมีไอดอลนะ
โฟร์ : โฟร์ไม่ได้ปลื้มใครเป็นพิเศษ แต่ก็ชอบน้องนิ้งค่ะ ที่ชอบก็ตรงเนื้อเสียงของเขา น้ำเสียงเพราะดี
มด : มดชอบนี่เลย อาวริล ลาวีญ ซึ่งเพลงเค้าเนี่ยร็อก จะต่างจากหนูมากเลยนะ ซึ่งตัวหนูจะไม่ใช่เลยนะ แต่ที่ชอบเนี่ย ชอบความที่เขาเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูง ลุคของเขาดูแล้วชอบ น่ารักบอกไม่ถูก มันชอบอ่ะพี่
มีข้อคิดคติที่ยึดถือในการทำงานหรือเปล่า
โฟร์ : โฟร์ก็พยายามทำทุกวันนี้ให้ดี เพราะโฟร์ชอบงานแสดงตรงนี้ ชอบการร้องเพลง มันเป็นสิ่งที่เรารักเราชอบ ถ้าเราตั้งใจโฟร์ว่าผลตอบรับจะออกมาดีเอง
มด : มดเนี่ยนะฝันอยากเป็นนักร้องมาตั้งแต่เด็กแล้ว และเราไม่เคยเข้าวงการนี้เลยไง ครั้งนี้ครั้งแรกเลย ในเมื่อเรารักมันมาก เราก็เลยต้องตั้งใจมาก ทุ่มเทกับทุกงานที่ทำไป
"แกร่ง" ขึ้นเร็วขนาดนี้ สงสัยว่าจะมีคนรู้ใจสุดพิเศษช่วยกับ "ปลอบ" หรือเปล่าคะคุณน้อง!!!
ภาพแฟชั่นในฉบับ คลิ๊ก!!
